เมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ได้โดยสารเครื่องบินเจ็ทของกองทัพอากาศออสเตรเลียจากกรุงแคนเบอร์ร่าไปยังนครซิดนีย์ เพื่อใช้เวลากับครอบครัว ก่อนจะบินกลับมายังแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย
ภายใต้ข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด 19 ในปัจจุบัน ผู้ที่เดินทางจากซิดนีย์มายังแคนเบอร์ราจะต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่มอร์ริสันกลับได้รับการยกเว้น โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องจำกัดการเดินทางของตนเองขณะอยู่ในกรุงแคนเบอร์ร่า และจะต้องมีการตรวจเชื้อเป็นประจำ
เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์มอร์ริสัน โดย บิลล์ ชอร์เทน สมาชิกอาวุโสของพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านกล่าวว่าการกระทำของมอร์ริสันเป็นเรื่องที่น่าเกลียด ในขณะที่ประชาชนออสเตรเลียกว่าครึ่งยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์และไม่สามารถเดินทางข้ามรัฐได้
ด้านมอร์ริสันออกมาตอบโต้ปกป้องตนเองผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สกาย นิวส์ ของออสเตรเลียว่า ตนเข้าใจถึงความรู้สึกไม่พอใจของประชาชน แต่เพราะตนอาศัยอยู่ในซิดนีย์และมักต้องมายังแคนเบอร์ร่าเพราะเรื่องงาน ตนจึงขอให้มีการยกเว้นเรื่องการเดินทางกลับมายังแคนเบอร์ร่า และแน่นอนว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี ตนจำเป็นต้องเดินทางกลับมาทำงานต่อไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ออสเตรเลียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายวันที่ติดเชื้อในท้องถิ่น 1,485 ราย ในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ข้างต้น มีผู้ป่วยจำนวน 1,220 ราย พบในนิวเซาธ์เวลส์ ที่มีซิดนีย์เป็นเมืองเอก