ออสเตรเลียจับมืออังกฤษสร้างกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ หนึ่งในก้าวสำคัญบรรลุข้อตกลงความมั่นคงพันธมิตรออคัส
หน่วยเรือดำน้ำของออสเตรเลียระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บีเออี ซิสเต็มส์ บริษัทค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ได้ตกลงสร้างกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้ประเทศ แม้หน่วยงานไม่ได้เปิดเผยจำนวนเรือ หรือรายละเอียดทางการเงินของข้อตกลง แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมของออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียจะได้รับเรือดำน้ำชั้น อย่างน้อย 5 ลำ ที่มีราคาหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2040 โดยลำแรกคาดว่า จะสร้างในอังกฤษ และลำต่อมา จะสร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือในเมืองแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย
เรือดำน้ำชั้นเอสเอ็นเอ็น-ออคัส ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยนิวเคลียร์ล้ำสมัย ที่เป็นความลับสุดยอดระหว่างสหรัฐและอังกฤษมานานกว่า 60 ปี ทำให้การทำงานเงียบและเคลื่อนไหวได้ในระยะทางไกล โดยไม่ต้องโผล่พ้นผืนน้ำ ให้ศัตรูเห็นได้
ข้อตกลงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามที่จะยกเครื่องกองทัพออสเตรเลีย หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มออคัส ที่มีสหรัฐและอังกฤษเข้าร่วม เพื่อถ่วงดุลอำนาจของการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชียแปซิฟิก คาดว่ารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงจะชัดเจนขึ้น หลังรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียและอังกฤษพบกันที่เมืองแอดิเลดในวันนี้
เมื่อวันพฤหัสบดี นายแกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ และนายริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย ได้ลงนามข้อตกลงกลาโหมฉบับใหม่ในแคนเบอร์รา ซึ่งเปิดทางให้กองทัพอังกฤษเข้าช่วยเหลือกองทัพออสเตรเลียได้ หากถูกโจมตี และเปิดทางให้การฝึกใช้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของอังกฤษง่ายขึ้น จากนั้นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและต่างประเทศของออสเตรเลียและอังกฤษทั้ง 4 คน ได้ไปเยี่ยมชมอู่ต่อเรือออสบอร์นในออสเตรเลีย
อย่างไรก็ดี มีข้อกังวลและมีการตั้งคำถามเพิ่มขึ้นว่า ออสเตรเลียซึ่งมีประสบการณ์ด้านนิวเคลียร์อย่างจำกัด และมีกองทัพเรือขนาดค่อนข้างเล็ก จะสามารถทำตามแผนสร้างกองเรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้หรือไม่ ซึ่งต้องใช้คนงานราว 2 หมื่นคน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ และเงินทุนจำนวนมหาศาล โดยระหว่างการพัฒนา ออสเตรเลียจะได้รับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้นเวอร์จิเนียอย่างน้อย 3 ลำจากสหรัฐ เพื่อใช้แก้ขัดไปก่อน โดยรวมแล้ว โครงการเรือดำน้ำออคัส อาจมีต้นทุนสูงถึง 2 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.7 ล้านล้านบาท) ในอีก 30 ปีข้างหน้า