เมื่อช่วงดึกของคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นของรัสเซีย ได้เกิดเหตุกราดยิงที่โครคัส ซิตี้ ฮอลล์ ซึ่งตั้งอยู่ทางชานเมืองของกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย โดยที่นี่เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า และยังเป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงเสียงระเบิดและเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่ดังกล่าว ขณะที่สื่อท้องถิ่นคาดว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ มีคนมาดูคอนเสิร์ตภายในอาคารเป็นจำนวนมากถึงกว่า 6,200 คน ด้านหน่วยงานความมั่นคงกลาง (หรือ FSB) รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 รายและบาดเจ็บเกือบ 150 ราย ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 7 ขวบ 5 ราย ทีมรถพยาบาลกว่า 70 คัน ระดมลงพื้นที่ช่วยเหลือเหยื่อ
คลิปภาพที่เผยแพร่ทางโลกออนไลน์พบว่า มีผู้ก่อเหตุอย่างน้อย 5 คนแต่งกายด้วยชุดลายพราง ใช้อาวุธหนักอย่างปืนไรเฟิล ทำการกราดยิงใส่ผู้คนที่มาดูการแสดงคอนเสิร์ตของวงปิกนิก โดยเริ่มจากสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่มีอาวุธที่ทางเข้าหลักของคอนเสิร์ตฮอลล์ ก่อนเดินกราดยิงเข้าไปในอาคารดังกล่าว ผู้คนต่างหนีตายกันอลหม่าน นอกจากนี้ มือปีนยังขว้างระเบิดมือและจุดไฟเผาอาคารด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดของรัสเซียในรอบหลายปี
ด้านกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินระบุว่า หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยกำลังปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ นักดับเพลิงอพยพผู้คนประมาณ 100 คนจากชั้นใต้ดินของอาคาร และกำลังดำเนินการช่วยเหลือผู้อื่นลงมาจากหลังคาด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 320 ชีวิต กำลังควบคุมสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ ขณะนี้สามารถระงับเพลิงไหม้ได้แล้ว โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ 3 ลำ ขึ้นไปเทน้ำกว่า 160 ตันใส่ตัวอาคาร ซึ่งอาคารนี้มีความสูง 7 ชั้น ถูกเพลิงไหม้ไปประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด
ล่าสุด ทางกลุ่มไอเอสได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ในการก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ โดยระบุว่า นักรบของตนได้ทำการโจมตี และได้ถอยกลับไปยังฐานทัพของพวกเขาอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐในรัสเซียระบุว่า กำลังติดตามรายงานเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรง ที่วางแผนมุ่งเป้าไปที่การชุมนุมขนาดใหญ่ในมอสโก รวมถึงคอนเสิร์ตด้วย พร้อมออกคำเตือนให้พลเมืองของตนในรัสเซีย หลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะและการรวมตัวของคนจำนวนมาก ซึ่งนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาตั้งคำถามว่า สหรัฐรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร และสหรัฐก็ควรส่งข้อมูลต่างๆให้รัสเซียในทันทีด้วย