พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 3/2564 โดยมี รมว.มท.และ รมช.กห. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมได้รับทราบ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานผลการดำเนินงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วง 20 มิ.ย.-20 ส.ค.64 ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง อย่างต่อเนื่อง ประชาชนให้ความร่วมมือด้วยดี ที่ผ่านมา
อีกทั้ง ความคืบหน้าผลการดำเนินการตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และความคืบหน้า แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการสืบสวน สอบสวน คดีความมั่นคงในพื้นที่ จชต.ของสำนักงานอัยการภาค 9 จากนั้น กบฉ.ได้พิจารณาเห็นชอบตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เสนอขอขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่ จชต. ยกเว้น อ.ไม้แก่น ,อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก, อ.สุคิริน , อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ 20 ก.ย.64 และสิ้นสุดใน 19 ธ.ค.64 โดยเป็นการขยายระยะเวลา ครั้งที่ 65 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการดูแล รักษาความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ทภ.4 ,กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ให้เข้มงวดงานด้านการข่าว การเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำการบังคับใช้กม.ควบคู่สร้างความเข้าใจประชาชน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกนาย ที่เสียสละ ทุ่มเทการทำงาน อย่างเต็มที่ และให้เตรียมแผนการปรับลดพื้นที่ประกาศ ฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อรองรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมาย ปลอดภัยจากภารกิจ และโควิด-19 กันทุกคน