จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค.64 ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรข้ามชาติ ภาค 2 จำนวนหลายสิบนายแต่งกายชุดนอกเครื่องแบบนำกำลังบุกเข้าไปในคฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1 เลขที่ 113/76 ม.9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายในสนามกอล์ฟฟินนิกส์ ก่อนจะกรูเข้าวิ่งไล่จับชาวจีนที่อยู่ในบริเวณบ้าน เนื่องจากมีการสืบทราบมาว่ากลุ่มชาวจีนมีพฤติกรรมอันเป็นเหตุน่าสงสัยเรื่องการเข้ามาทำธุรกิจจนร่ำรวยผิดปรกติ โดย ตร.อ้างว่ามีหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 64/2564 แต่ระหว่างที่บุกเข้าไปนั้น ถูก “ลีโอ” นายจั๋ง หยาง หรือ นายจาง หยาง หรือ MR.ZHANG YANG อายุ 35 ปี ที่กำลังเดินเล่นอยู่ในบริเวณบ้าน วิ่งหนีเข้าไปในบ้านก่อนใช้ปืนกล็อก ขนาด 9 ม.ม.ดัดแปลงใส่แมกซ์บรรจุกระสุนขนาดยาวได้ 40-50 นัด ยิงรัวออกมาจากภายในห้องโถงจำนวนหลายสิบนัด กระสุนทะลุประตูทำให้ ร.ต.อ.พันเทพ ศรีบุญนาค หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษ เมืองพัทยา ที่วิ่งตามนายลีโอมา ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ หน้าอก รวม 3 นัด บาดเจ็บสาหัส ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ถูกยิงเข้าที่หน้าอกและบริเวณขา
จากนั้นจนท.ตำรวจ ก็ได้ยิงตอบโต้กับ “ลีโอ”สนั่นหวั่นไหว และได้ควบคุมสถานการณ์ด้วยการปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวไว้ จนกระทั่ง “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ประจำตร.รักษาราชการแทน ผบก.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง.ผบก. พร้อมชุดปฎิบัติการพิเศษ ตร.สืบสวนภ.2 ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ก่อนควบคุมตัว นายจาง หยาง มังกรจีนมือปืนที่ยิงสู้กับตำรวจ พร้อมชาวต่างชาติและชาวไทยที่อยู่ในบ้านไว้ได้รวม 8 คน เป็นคนจีน 5 คน คนพม่า 2 คน คนไทย 1 คน พบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม.ตกกระจายเกลื่อนอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 40 ปลอก พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์หรูโรลส์รอย สีขาวทะเบียน ขย 999 กรุงเทพมหานคร รถเปอร์เช่ สีบรอนซ์ ทะเบียน ขษ 16 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์สีดำ ทะเบียน กศ 2774 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ตู้ยี่ห้อ เลกซัสสีดำ ทะเบียน ขษ 9 ชลบุรี รถตู้วีไอพี โตโยต้า สีขาว ทะเบียน งษ 3899 ชลบุรี รถกระบะสีดำ จอดอยู่บริเวณที่ดินว่างเปล่าข้างบ้านมีผ้าคลุมไว้อย่างมิดชิดรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท และได้ตรวจยึดเงินสดอยู่ในตู้เซฟอีกจำนวน 27 ล้านบาท และทรัพย์สินเป็นกำไร นาฬิกาแบนด์ดังจำนวนกว่า 13 รายการ นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ สภ.ห้วยใหญ่ แจ้งข้อหานายจั๋ง หยาง ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
หลังจากการตรวจค้นอย่างละเอียด จนท.ตร.ได้ตรวจพบบัตรประชาชนปลอม ที่มีชื่อนายจั๋งหยาง หรือ จาง หยาง เป็นผู้ครอบครอง อีก 1 ใบ ระบุกรมการปกครองเป็นผู้ออกบัตรประชาชชน ให้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กล่าวผู้สื่อข่าวถึงรายละเอียดของการเข้าตรวจค้นบ้านกลุ่มมังกรจีนว่า มีการสืบทราบมาว่ากลุ่มคนจีนต่างชาติ ต้องสงสัยว่าทำธุรกิจพนันออนไลน์ ตร.จึงนำหมายค้นไปตรวจสอบ เลยมีการยิงต่อสู้กัน มีการตรวจยึดคอมพิวเตอร์และเอกสารและทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ และจะต้องตรวจสอบต่อไปว่ากลุ่มคนต่างชาติเข้าประเทศถูกต้องหรือไม่ และได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกข้อหาทุกความผิดที่ตรวจพบ รวมถึงสืบสวนขยายผลไปถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องเอาให้หมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีมังกรจีนยิงตำรวจ เป็นที่สนใจและเฝ้าติดตามของประชาชนและสื่อมวลชน เนื่องจากคดีนี้มีการตรวจยึดรถของกลางและทรัพย์สินมูลค่ารวมกันหลายสิบล้าน อีกทั้ง“กลุ่มมังกรจีน”ยังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนท.จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าน่าจะมีกลุ่มมาเฟียคนไทยในพื้นที่เมืองพัทยาให้การสนับสนุน ซึ่งหลังจากเหตุเกิดผ่านไปเกือบ 3 เดือน “บิ๊กรอย” พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผช.ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.2 ว่าที่ รอง.ผบ.ตร.และ “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี ไม่ได้มีการแถลงการณ์ความคืบหน้าของคดีนี้กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ มีการรวบรวมหลักฐานดำเนินการสั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่อย่างไร
สำหรับความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี ว่าที่ ผบช.ภ.2 คนใหม่ ได้ส่งเอกสารเป็นรายละเอียดในการคืนทรัพย์สินของกลางคดี เป็นบันทึกประจำวันลงวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีการลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า เรื่องส่งมอบทรัพย์สินที่ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ/ตรวจพิสูจน์ และเก็บรักษาไว้เพื่อป้องกันสูญหาย
โดยระบุว่าได้ทำการคืนทรัพย์สินจำนวน 13 รายการ ประกอบด้วย
1.เงินสด 27,395,500 บาท
2.กำไลแขน ยี่ห้อHermer 1 วง
3.สร้อยคอสีเงิน 1 เส้น
4. พระเลี่ยมทอง 2องค์
5.กำไลข้อมือสีทอง 1 เส้น
6.ตะขอสีทอง จำนวน 2 อัน
7.นาฬิกายี่ห้อ PATEK PHILIPPE 2 เรือน
8.นาฬิกายี่ห้อ APPLE WACH 1 เรือน
9.นาฬิกายี่ห้อ SEVENFRIDAY 2 เรือน
10.นาฬิกายี่ห้อ CARTIER 1 เรือน
11. เครื่องประดับและทรัพย์สินอื่น 1 กล่อง (ภายในตู้เซฟ แยกมาบรรจุใส่กล่อง ปรากฏตามบันทึกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ฉบับลงวันที่ 29 กค.64
12.โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
13.เช็คเงินสด 25 ล้าน ธนาคารกสิกรไทย 1 ฉบับ สั่งจ่ายนายจั๋นหยาง หรือนายจาง หยาง ลงชื่อ พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ นายปริญญา พรมศักดิ์ ผู้รับมอบอำนาจ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง.ผกก.(สอบสวน)สภ.ห้วยใหญ่ นายเหวิน เผิง เชิง พยาน
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี ยังได้ พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูล ผกก.ห้วยใหญ่ ทำบันทึกข้อความถึง พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ดำเนินคดีกับ นายจั๋น หยาง หรือนายจาง หยาง ที่เจ้าหน้าที่ตร.ได้ตรวจยึดบัตรประชาชนปลอม โดยได้ให้กรมการปกครองตรวจสอบและร้องทุกข์นายจั๋น หยาง เรื่องทุจริตสวมบัตรประชาชนของนายโม๊ะควา เอี่ยมอรชุน ไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ โดยปรากฏว่าภาพใบหน้าในบัตรประชาชนของนายโม๊ะควาฯ นั้น เป็นภาพของนายจั๋ง หยาง หรือจาง หยาง หรือ MR.ZHANG YANG อายุ 35 ปี เชื้อชาติจีน/สัญชาติจีน ถือหนังสือเดินทางเซนต์คิสโตเฟอรัน ของประเทศสหพันธ์รัฐเซนต์คิตส์และเนวิส เลขที่ RE 0075308 และหนังสือเดินทางประเทศจีน เลขที่ E 76130652 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีของ สภ.ห้วยใหญ่ เห็นว่าผู้ต้องหานี้ร่วมกระทำผิดกรณีสวมบัตรฯดังกล่าว ในพื้นที่ สภ.เมืองชัยภูมิ โดยในขณะนี้ตัวนายจั๋ง หยาง หรือจาง หยาง ผู้ต้องหาถูก พนักงานสอบสวนสภ.ห้วยใหญ่ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1ต่อศาลจังหวัดพัทยา จะครบกำหนดครั้งที่ 5 ในวันที่ 19 ก.ค.64 รวมทั้งได้ส่งเรื่องไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้อนกันปราบปรามทุจริต เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสวมบัตรประชาชนให้นายจั๋ง หยาง หรือจาง หยาง อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่เอกสารอ้างว่าเป็นตำรวจสังกัด ภ.จว.ชลบุรี ทำหนังสือร้องเรียนของความเป็นธรรม ไปถึง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ให้มาตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายพลตำรวจยศ พล.ต.ท.รายหนึ่งในภาคตะวันออก มีรายละเอียดระบุว่านายจาง หยาง ได้หนีออกไปจากประเทศไทยแล้ว เพราะหวาดกลัว และยังต้องใช้เงินเคลียร์ให้ตำรวจผู้ใหญ่เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีในข้อหาสวมบัตรประชาชน และเงินสดของกลางจำนวนกว่า 27 ล้านบาท พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ก็ไม่คืนให้ บอกว่าต้องให้ไปเคลียร์กับนายพลตำรวจระดับใหญ่ก่อน
หลังจากได้มีการแพร่เอกสารและเนื้อหาในหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมถูกนำลงไปเผยแพร่ในเพจชื่อดัง ทำให้ข่าวคราวดังกล่าวแพร่สะพัดไปในทางลบกับนายพลตำรวจที่มีชื่ออยู่ในบัญชีการโยกย้าย-แต่งตั้ง โดยเชื่อว่าการปล่อยข่าวในเชิงลบ ว่ามี “นายพลกับเงิน 30 ล้าน” มาเกี่ยวโยงกันเชื่อว่าเพื่อต้องการเลื่อยขาเก้าอี้ “บิ๊กจ้าว”พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท.ผบก.ชลบุรี ว่าที่ ผบช.ภ.2 คนใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงยุทธจักรสีกากีว่า “บิ๊กจ้าว” เป็น “นายตำรวจตงฉิน” ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในการรับสินบนกับผู้กระทำผิดกฎหมายเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า “เดอะปั๊ด”พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สอบถามและติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ และ“บิ๊กจ้าว”ก็ได้รายงานความคืบหน้าในการขยายผลคดีตลอดเวลา ซึ่งทาง ผบ.ตร.ก็มีความเชื่อใจว่า “บิ๊กจ้าว”ว่าที่ ผบช.ภ.2 คนใหม่ นั้นไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกใส่ร้ายแน่นอน
ธนา ธรรมวาจา เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.ชลบุรี