ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน กล่าวระหว่างการประชุมที่กรุงปักกิ่ง กับตัวแทนจากชุมชนธุรกิจ ยุทธศาสตร์ และวิชาการของสหรัฐว่า ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐ ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐ เป็นประวัติศาสตร์ของการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างประชาชนของกันและกัน ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนอนาคตและชะตากรรมของมนุษยชาตินั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าจีนและสหรัฐจะร่วมมือกัน หรือจะเผชิญหน้ากัน ตราบใดที่ทั้ง 2 ฝ่ายมองว่า ทั้ง 2 ต่างเป็นหุ้นส่วนกัน มีความเคารพผลประโยชน์ของกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือกันเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ความสัมพันธ์ทวิภาคีก็จะดีขึ้น
สีกล่าวต่อว่า ในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐ ต้องประสบกับความล้มเหลวและความท้าทายร้ายแรงหลายอย่าง ซึ่งทั้ง 2 ควรเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านี้ ความสัมพันธ์ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ แต่สามารถต้อนรับอนาคตที่สดใสได้ ทั้งนี้ จะสังเกตได้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงรักษาการสื่อสาร และสร้างความก้าวหน้าในด้านการเมืองและการทูต รวมถึงเรื่องของเศรษฐกิจและการเงิน, และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งภายใต้สถานการณ์ใหม่ต่างๆนี้ จะเห็นได้ว่า จีนและสหรัฐมีผลประโยชน์ร่วมกันไม่น้อยทีเดียว
สียังคงกล่าวต่อไปว่า จีนและสหรัฐควรช่วยเหลือกัน มากกว่าขัดขวางการพัฒนาของกันและกัน ทั้งในด้านที่เคยมีอย่างการค้าและการเกษตร และในด้านใหม่ๆ เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญญาประดิษฐ์ สหรัฐควรทำงานร่วมกับจีนในทิศทางเดียวกัน สร้างการรับรู้เชิงกลยุทธ์ที่ถูกต้อง และจัดการประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มีเสถียรภาพต่อไป
ขณะที่ทางตัวแทนของสหรัฐก็ได้กล่าวว่า การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นของจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บ่งบอกถึงความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่ง รวมถึงทำให้มั่นใจได้ว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนา และมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจโลกแข็งแกร่งและมีบูรณาการมากขึ้น ทั้งนี้ ทางชุมชนธุรกิจ ยุทธศาสตร์ และวิชาการของสหรัฐ ขอสนับสนุนสหรัฐและจีน ในการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารในทุกระดับ เสริมสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจ และความร่วมมือซึ่งกันและกัน รวมถึงร่วมมือกันเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกอื่นๆต่อไป