จีนยกเลิกกำแพงภาษีไวน์ออสเตรเลีย ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศดีขึ้น หลังจากตึงเครียดมานานหลายปี
กระทรวงพาณิชย์จีนออกมาประกาศว่า จะยกเลิกกำแพงภาษีไวน์ ที่ทำให้ต้นทุนไวน์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่วันนี้ (29 มี.ค.)หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ยกเลิกกำแพงภาษีสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียหลายรายการ รวมถึงถ่านหิน ไม้ซุง และข้าวบาร์เลย์ ด้านรัฐบาลออสเตรเลียได้ออกมาแสดงความยินดีต่อมาตรยุติการคว่ำบาตรดังกล่าว ที่ทำให้ผู้ผลิตไวน์ในประเทศหลายรายตกอยู่ในภาวะวิกฤติ และตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการยกเลิกคดีที่ฟ้องร้องจีน ที่องค์การการค้าโลก
ในปี 2563 จีนได้เรียกเก็บภาษีสินค้าส่งออกสำคัญของออสเตรเลีย เช่น ไวน์ ข้าวบาร์เลย์ และเนื้อวัว เพื่อตอบโต้ออสเตรเลียที่ออกกฎหมายต่อต้านอิทธิพลจากต่างประเทศ ด้วยการแบนหัวเหว่ย ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนจากสัญญา 5G และเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นกำเนิดโควิดในจีน ทำให้ผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลียได้รับผลกระทบหนัก เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ของการส่งออกไวน์ หรือคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 33 ในปี 2563 และมีมูลค่าตลาดถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้องหันไปหาตลาดเอเชียอื่นๆ รวมถึงฮ่องกงและไทย
ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศได้ผ่อนคลายลง นับตั้งแต่ออสเตรเลียเปลี่ยนผู้นำใหม่ในปี 2565 และยังส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองได้พบกันในเดือนนี้ ออสเตรเลียยังระบุว่าจะมุ่งหารือ เพื่อยกเลิกข้อจำกัดทางการค้าที่ยังคงอยู่ รวมถึงกำแพงภาษีของกุ้งล็อบสเตอร์และเนื้อวัว
ด้านผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลียกล่าวว่า ประกาศนี้ถือเป็นก้าวเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมไวน์ของออสเตรเลีย และต่อผู้บริโภคไวน์ในจีน และตั้งตารอที่จะกลับมาเปิดตลาดในจีนอีกครั้ง ส่วนร้านไวน์ในปักกิ่งก็กล่าวว่า เป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เนื่องจากนักดื่มชาวจีนชื่นชอบไวน์แดงจากออสเตรเลีย และสินค้าได้หมดสต็อกไปกว่า 1-2 ปีแล้ว