สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานถึงข้อมูลของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (หรือ OCHA) ที่มีรายงานว่า ผู้คนมากกว่า 1.1 ล้านคนในฉนวนกาซา กำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารระดับรุนแรง ตอนนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ในการจัดสรรความช่วยเหลือด้านอาหารที่เพียงพอผ่านเส้นทางภาคพื้นดิน เพื่อช่วยชีวิตผู้คน โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีอุปสรรคในการเข้าถึงในพื้นที่
ขณะเดียวกัน หน่วยงานทางการแพทย์ประกาศว่า พบเด็กเสียชีวิต 1 ราย ในเมืองเบตลาเฮียที่อยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องด้วยความอดอยากและขาดการรักษาพยาบาล ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากภาวะอดอยากในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นไปอีก ขณะนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ประมาณ 2. .35 ล้านคน จึงกำลังเผชิญกับสภาวะด้านมนุษยธรรม ท่ามกลางคำเตือนเรื่องความอดอยากจากนานาชาติ
อย่างไรก็ดี ทางด้านของอิสราเอล โดยโคแกต (Cogat) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ที่รับผิดชอบกิจการพลเรือนในดินแดนปาเลสไตน์ ได้ออกมาตอบโต้ว่า รายงานดังกล่าวมีข้อบกพร่องด้านข้อเท็จจริง เป็นรายงานที่ใช้ข้อมูลของกลุ่มฮามาส และรายงานของสื่อปาเลสไตน์เท่านั้น อิสราเอลขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยเด็ดขาดที่ว่า อิสราเอลจงใจทำให้ประชาชนพลเรือนในฉนวนกาซาอดอยาก โดยแม้ในช่วงสงครามนี้ อิสราเอลก็ไม่ได้จำกัดปริมาณความช่วยเหลือที่สามารถเข้าไปในฉนวนกาซาได้ และไม่ได้จำกัดทางเข้าของอาหารอย่างแน่นอน ซึ่งอิสราเอลก็ได้อำนวยความสะดวกในการให้แก๊สหุงต้มและเชื้อเพลิงดีเซล และยังเป็นผู้จัดหาน้ำอีก 14 ล้านลิตรให้อีกด้วย
อิสราเอลเสริมต่อว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีรถบรรทุกเข้าไปฉนวนกาซาที่จำนวนระหว่าง 150 ถึง 200 คันต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกอาหาร เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรถบรรทุกอาหารเฉลี่ยรายวัน ที่เข้าไปในฉนวนกาซาก่อนวันที่ 7 ตุลาคม ทั้งนี้ อิสราเอลไม่ใช่ผู้ที่ดำเนินการแจกจ่ายอาหารในฉนวนกาซา ซึ่งในช่วงเวลาที่มีรถบรรทุกหลายร้อยคันถูกจอดอยู่ที่ฝั่งกาซา ตรงจุดผ่านแดนเคเรม ชาลอมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ในอิสราเอลก็ได้ดำเนินการให้ผ่านจนเสร็จสิ้น จะมีก็แต่หน่วยงานของสหประชาชาติ ที่ไม่สามารถจัดการกับปริมาณความช่วยเหลือที่มาถึงในแต่ละวันได้