เดอะนิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐรายงาน โดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ระบุชื่อ ทั้งที่อยู่ในประเทศและที่ในตะวันออกกลางว่า ทางสหรัฐกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ ที่อิหร่านจะทำการตอบโต้เหตุโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ที่ถล่มกงสุลอิหร่าน ในเมืองดามัสกัส ของประเทศซีเรีย โดยกองกำลังทหารสหรัฐในภูมิภาคนี้ อยู่ในภาวะตื่นตัวขั้นสูงสุด และได้รับการแจ้งเตือนการเฝ้าระวังขั้นสูงกว่าเดิม นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่อิสราเอลก็ออกมาเปิดเผยด้วยว่า อิสราเอลได้กำหนดให้กองทัพของตนอยู่ในการเฝ้าระวังขั้นสูงเช่นกัน โดยระงับการลางานของบรรดากองหนุน พร้อมเรียกกองหนุนบางส่วนกลับไปยังหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ และบล็อกสัญญาณ GPS ด้วย
ขณะที่ CBS สื่อของสหรัฐเช่นกันก็รายงานว่า สหรัฐได้รับข่าวกรองว่า อิหร่านกำลังวางแผนโจมตีตอบโต้ โดยการตอบโต้จะมีฝูงโดรนของชาเฮดและขีปนาวุธร่อน อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบถึงเวลาและเป้าหมายที่แน่นอน แต่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการโจมตีตอบโต้ไปที่สถานทูตของอิสราเอล และการโจมตีดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นระหว่างช่วงตอนนี้จนถึงปลายรอมฎอนในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่ทราบอีกอย่าง และถือเป็นส่วนที่สำคัญมากก็คือ โดรนและขีปนาวุธ อาจจะถูกปล่อยจากอิรักหรือซีเรีย เพื่อที่ไม่สามารถกล่าวหาว่ามาจากดินแดนอิหร่านได้
ด้านนายโมฮัมหมัด จัมชิดี รองประธานาธิบดีอิหร่าน ได้มีการโพสต์ผ่าน X มาว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านขอเตือนผู้นำสหรัฐไม่ให้ติดกับดักของ (นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน) เนทันยาฮู สหรัฐจงอยู่ให้ห่างแล้วจะไม่เจ็บตัว ทั้งนี้ จัมชิดียังอ้างด้วยว่า สหรัฐได้ขอให้อิหร่าน ไม่กำหนดเป้าหมายโรงงานของสหรัฐ อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมา ทางโฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ก็ได้เปิดเผยกับซีบีเอสนิวส์ว่า สหรัฐได้รับข้อความจากอิหร่านจริง และได้ตอบโต้กลับด้วยคำเตือนแบบเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังอิหร่านว่า อย่าคิดใช้การโจมตีของอิสราเอล มาเป็นข้ออ้างในการโจมตีบุคลากรและโครงสหรัฐพื้นฐานของสหรัฐ ข้อความนี้เป็นการเตือน ไม่ใช้การถามร้องขอแต่อย่างใด
สำหรับการเอาคืนของอิหร่านนั้น ดร. ซาแนม วาคิล ผู้อำนวยการโครงการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่ชาแทมเฮ้าส์ของลอนดอน ได้แสดงความเห็นว่า อิสราเอลได้เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีในวงกว้าง ที่อาจนำไปสู่สงครามในภูมิภาคได้ ซึ่งสงครามในวงกว้างนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ที่มุ่งทำลายเสถียรภาพของอิหร่าน มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับกลุ่มฮามาสเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับทุกฝ่ายในคราวเดียวกันด้วย อย่างไรก็ดี อิสราเอลก็ตระหนักได้อยู่ว่า ช่องทางสำหรับการปฏิบัติการดังกล่าวนั้นมีจำกัด เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มสูงขึ้น และยุทธวิธีทางทหารของอิสราเอลก็ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนยิ่งขึ้น
ขณะที่ดร. อัฟชอน ออสโตวาร์ รองศาสตราจารย์ด้านกิจการความมั่นคงแห่งชาติ ที่โรงเรียนบัณฑิตศึกษากองทัพเรือของสหรัฐ ก็แสดงความเห็นว่า แม้ว่าการโจมตีที่ซีเรียจะดูร้ายแรง แต่ตนก็ไม่คิดว่า มันจะเป็นการเปลี่ยนเกม แต่มันคือความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่านมานานหลายทศวรรษแล้ว โดยสำหรับอิหร่านนั้น แม้ในด้านหนึ่งจะประสบความสำเร็จทางการเมือง แต่ก็ไม่สามารถผลักดันทางการทหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้จริงๆ การปฏิบัติการทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับอิหร่าน จะไม่มีประโยชน์อันใด อิหร่านไม่มีเหตุผลที่แท้จริง ที่จะเปลี่ยนเกมและเข้าสู่สงครามการยิงได้เลย