“อธิบดีกรมควบคุมโรค” สั่งการ สคร.6 ชลบุรี ลงพื้นที่ ประเมินสุขภาพปชช.ตรวจ “สารแคดเมียม” พร้อมแนะวิธีป้องกัน

"อธิบดีกรมควบคุมโรค" สั่งการ สคร.6 ชลบุรี ลงพื้นที่ ประเมินสุขภาพปชช.ตรวจ "สารแคดเมียม" พร้อมแนะวิธีป้องกัน

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้แพทย์หญิงวรยา เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตรวจสอบพร้อมเฝ้าระวัง และประเมินสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียม โดยสารดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ หากมีการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 6 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี โรงพยาบาลบ้านบึง สาธารณสุขอำเภอบ้านบึง และทีมสาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณข้างเคียง ตรวจคัดกรองสุขภาพ และสุ่มตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะของประชาชน นอกจากนี้ ยังให้ความรู้ประชาชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในพื้นที่ และแนวทางปฏิบัติตัวพร้อมทั้งประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นบริเวณโดยรอบโกดังเป็นพื้นที่การเกษตรร่วมเฝ้าระวังด้านสุขภาพของพนักงานและประชาชน จำนวน 24 คน (คนไทย 20 คน แรงงานต่างด้าว 4 คน เป็นชาย 14 คน,หญิง 10 คน) โรงพยาบาลบ้านบึง เก็บตัวอย่างเลือด จำนวน 24 ตัวอย่างและปัสสาวะ จำนวน 22 ตัวอย่าง สคร.6 ชลบุรี สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล N 95 ให้กับอำเภอบ้านบึง และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ประเภท FFP2 ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และสื่อสารความเสี่ยงการป้องกัน และสังเกตอาการ ให้กับเจ้าหน้าที่ และประชาชน
ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งห้ามมิให้มีการเคลื่อนย้ายกากของเสียประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียม ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ออกนอกพื้นที่ และประสานทีมสาธารณสุข ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานต่อไป

 

แพทย์หญิงวรยา เหลืองอ่อน ผอ.สคร.6 ชลบุรี กล่าวว่า สารแคดเมียม มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการแบบเฉียบพลัน ได้แก่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ระคายเคืองหลอดลม จมูก และคอ นอกจากนี้ หลังจากการรับสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดพังผืดที่ปอด พิษต่อไต โรคกระดูก หรือที่รู้จักกันในโรคอิไต อิไต และก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ควรปฏิบัติตัวดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตพื้นที่โรงงาน 2.หากมีการสูดดมเข้าไป ให้รีบไปอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศบริสุทธิ์ 3.หากเข้าตา รีบล้างด้วยน้ำสะอาดและพบจักษุแพทย์ 4.หากเผลอกลืนกิน รีบดื่มน้ำตามทันที อย่างน้อย 2 แก้ว และ 5. หากมีอาการผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์ทันที ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐเป็นระยะ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น