กต.ย้ำชัดไทยเป็นกลาง ช่วยเหลือเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม

กต. ย้ำชัด ไทยเป็นกลาง พร้อมช่วยเหลือเมียนมาทุกฝ่าย ตามหลักมนุษยธรรม ขอทุกฝ่ายฟัง นายกฯ จ่อถกวงหารือความมั่นคง รับมือปัญหาชายแดน

กต.ย้ำชัดไทยเป็นกลาง ช่วยเหลือเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม – Top News รายงาน

เมียนมา

(8 เม.ย. 67) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธนวัต ศิริกุล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนภายหลังแถลงข่าวว่า ภารกิจหลักของรัฐบาลคือดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเป็นหลัก ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด “การดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและความมั่นคงปลอดภัยของพี่น้องชาวไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงของไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง”

เมื่อถามว่าการขออนุญาตลงจอดที่สนามบินแม่สอดในครั้งนี้ ถูกต้องตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศหรือไม่ นายธนวัต กล่าวว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติจะมีการแลกเปลี่ยนบันทึกทางการทูตระหว่างกัน และมีการอนุมัติกันไป เป็นเรื่องปกติที่เราทำกันอยู่กับประเทศเพื่อนบ้าน

“เป็นที่รู้กันดีว่าเราอยู่ร่วมกันมานาน ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อจำเป็นเร่งด่วน เราเห็นแล้วว่าเขามีเหตุที่ขอมา และอยู่ในวิสัยที่สามารถอนุมัติได้ ก็คิดว่าปกติ และหากเราขอความร่วมมือจากประเทศชายแดนเพื่อนบ้านเช่นนี้ เราก็คงคาดหวังว่าเขาจะพิจารณาด้วยดีเช่นกัน”

ดังนั้น การตัดสินใจครั้งนี้ก็เป็นไปตามช่องทางที่ทางเมียนมาติดต่อมา คือสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยส่งบันทึกให้กระทรวงการต่างประเทศ ส่วนสาเหตุของเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิกนั้น ยังไม่ทราบ แต่คิดว่าอาจจะมีการหารือกันต่อไปในอนาคต  ยังมีความกังวลหากทางการเมียนมา ขนย้ายสิ่งของไปแล้ว จะมีการเอาคืนชนกลุ่มน้อยจนทำให้กระทบฝั่งไทย นายธนวัต ระบุว่า ตนในฐานะรองโฆษกกระทรวง อาจจะตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการคาดหวัง ไม่ใช่การคาดการณ์ไปล่วงหน้า อาจจะไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะตอบ

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามย้ำว่า จะมีความรุนแรงหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่ามีการปูพรมน่านฟ้า กระทรวงการต่างประเทศ จะมีแนวทางดูแลคนที่อยู่ชายแดนอย่างไร นายธนวัต กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงของเรามีแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจน ความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดก็คือผลประโยชน์ของประเทศไทย และความอยู่รอดปลอดภัยของพี่น้องชาวไทย เราเองก็มีแนวปฏิบัติของเรา ถ้าเป็นด้านมนุษยธรรม ถ้ามีใครขอเข้ามาก็มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนว่าห้ามเอาอาวุธเข้ามา ส่วนเรื่องอื่นถ้าเกิดขึ้น แล้วส่งผลกระทบต่อพี่น้องชาวไทยในชายแดน เราก็มีมาตรการรองรับอยู่แล้วเรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างใกล้ชิด ตนคิดว่าพรุ่งนี้เช้า (9 เม.ย.67) ในการประชุม ครม. ที่ทำเนียบจะมีการหารือนั้น จะมีการพูดคุยเรื่องนี้กัน

ส่วนเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อโครงการระเบียงมนุษยธรรมหรือไม่ นายธนวัต กล่าวว่า ก็คงมีข้อคำถามมากขึ้น แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ เรื่องการกำหนดนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติต่างๆ คงต้องประเมินสถานการณ์ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด และจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้บริหารในระดับสูงที่จะพูดคุยกัน เพราะจะเป็นการร่วมมือกันหลายฝ่าย   ส่วนเรื่องการอพยพมีการเตรียมแผนไว้หรือไม่ นายธนวัต ระบุว่า พรุ่งนี้คงมีการประเมินสถานการณ์ หากเลวร้ายลงจะไปในแนวทางไหน ตนเชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงมีแผนอยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งพรุ่งนี้จะมีหน่วยงานความมั่นคงเป็นหลักในการประชุม

ไทยเป็นกลาง

เมื่อถามว่าไทยจะมีการปรับบทบาทเข้าไปดูแลโดยที่ไม่ผิดหลักการแทรกแซงได้อย่างไร นายธนวัต กล่าวว่า ตอนนี้เราดูแลเรื่องมนุษยธรรม เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องในอนาคตคงต้องมีการมาพูดคุยกันว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร   ส่วนจะทำความเข้าใจกับชาติอื่นในอาเซียนอย่างไร ตนคิดว่าจุดยืนของไทยค่อนข้างชัดเจนว่ามีคำขอเข้ามา และเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นเรื่องมนุษยธรรม จึงค่อนข้างที่จะเป็นปกติ เพราะเราอยู่ประเทศเพื่อนบ้านกัน มีการแลกเปลี่ยนกันไปมาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าไม่มีการยักย้ายถ่ายเทอาวุธใช่หรือไม่ นายธนวัต ย้ำว่า ตนเชื่อมั่นว่ามีการปฏิบัติตามแนวทางปฎิบัติของเราอย่างเคร่งครัด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การติดต่อทางการทูตเป็นเรื่องที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว หากมีการลักลอบดำเนินการ ทางฝ่ายเราเองก็ต้องติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามสิ่งที่เกิดขึ้นตามข้อมูลติดตามเหตุที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าขณะนี้ ถือเป็นครั้งที่สองที่มีเที่ยวบินต่างชาติเข้ามาในสนามบินแม่สอด ต้นปีก็มีเที่ยวบินจีนมาขนคนจีน ทำให้ประชาชนมองว่ารัฐบาลทำอะไรโดยพละการ ดังนั้น จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนก่อนหรือไม่ว่าจะมีปฏิบัติการณ์แบบนี้เกิดขึ้น นายธนวัต กล่าวว่า คงต้องมีการหารือกัน ตนไม่อยู่ในวิสัยที่จะตอบได้

ช่วยเหลือเมียนมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น