นางวาเนสซา ฟราเซียร์ เอกอัครราชทูตสหประชาชาติของมอลตา ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประจำเดือนเมษายน ได้ส่งใบสมัครของทางการปาเลสไตน์ ที่จะเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของสหประชาชาติ ต่อคณะกรรมการการรับสมาชิกใหม่ พร้อมระบุว่า การพิจารณาจะต้องเกิดขึ้นในเดือนนี้ และจะเป็นการประชุมแบบปิด
สำหรับการพิจารณานั้น ทางคณะกรรมการของสมาชิก 15 ประเทศ จะประเมินใบสมัครเพื่อดูว่า เป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับการเป็นสมาชิกสหประชาชาติหรือไม่ ซึ่งเมื่อผ่านตรงนี้ไปแล้ว ก็เข้าสู่การลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการในคณะมนตรีความมั่นคง โดยการอนุมัติต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 9 เสียง และจะต้องไม่ถูกยับยั้งจากสมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศอันได้แก่สหรัฐ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส และอังกฤษ
ด้านนายริยาด มันซูร์ ผู้สังเกตการณ์ถาวรของรัฐปาเลสไตน์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า เราหวังอย่างจริงใจว่า หลังจากผ่านไป 12 ปีนับตั้งแต่เราเปลี่ยนสถานะของเรา เป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ คณะมนตรีความมั่นคงจะยกระดับไปสู่การดำเนินการตามฉันทามติระดับโลก เกี่ยวกับการแก้ปัญหา 2 รัฐ ด้วยการยอมรับรัฐปาเลสไตน์เป็นสมาชิกอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการปาเลสไตน์ได้ร้องขออย่างเป็นทางการ ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พิจารณาคำขอเมื่อปี 2011 เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยขณะนี้ ปาเลสไตน์เป็นเพียงรัฐผู้สังเกตการณ์อยู่เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในช่วงก่อนการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงนั้น นายกิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติได้ขึ้นกล่าวคัดค้านในเรื่องนี้ว่า 6 เดือนนับตั้งแต่การสังหารหมู่ ไม่มีการเฝ้าระวัง ไม่มีการประณามกลุ่มฮามาส และขณะนี้คณะมนตรีความมั่นคงกำลังยุ่งอยู่กับการหารือเรื่องการรับรองรัฐปาเลสไตน์ แทนที่จะกำหนดให้กลุ่มฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้าย
นอกจากนี้ เออร์ดาน ยังออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า การให้สถานะรัฐของปาเลสไตน์ ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติอย่างโจ่งแจ้งเท่านั้น แต่ยังละเมิดหลักการพื้นฐานในการหาวิธีแก้ปัญหา ซึ่งแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืนนั่นคือที่โต๊ะเจรจา สหประชาชาติได้บ่อนทำลายสันติภาพในตะวันออกกลางมาหลายปีแล้ว แต่วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของจุดที่ไม่อาจหวนกลับได้อีกต่อไป