“ดร.สามารถ” ชี้สาเหตุหลักอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ แนะนายกฯสั่งเข้มลงโทษคนทำผิดจริงจัง

"ดร.สามารถ" ชี้สาเหตุหลักอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ แนะนายกฯสั่งเข้มลงโทษคนทำผิดจริงจัง

ดร.สามารถ” ชี้สาเหตุหลักอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ แนะนายกฯสั่งเข้มลงโทษคนทำผิดจริงจัง

วันที่ 10 เม.ย. 67 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” ระบุว่า แนะ “นายกฯ” ลด “อุบัติเหตุจราจร” ช่วง “สงกรานต์” ก่อนปิดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไปที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อตรวจความพร้อมในการรองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาของพี่น้องประชาชน ปีนี้ก็เช่นกัน น่าดีใจที่มีข่าวว่านายกฯ เศรษฐาจะไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมที่หมอชิต หวังว่าปีนี้อุบัติเหตุจราจรจะน้อยกว่าปี 2566 !

ดร.สามารถ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1. อุบัติเหตุจราจรเกิดจากอะไร ?
อุบัติเหตุจราจรเกิดขึ้นจาก 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย (1) คนขับ (2) รถ และ (3) ถนน ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากคนขับ

คนขับรถที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมักเกิดจากดื่มสุรา เสพยา พักผ่อนไม่เพียงพอ และฝ่าฝืนกฎจราจรในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะแซงในที่คับขัน ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด หรือขับรถฝ่าไฟแดง เป็นต้น

รถที่มีสภาพไม่พร้อมทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ความไม่พร้อมของรถมีหลายอย่าง เช่น ไฟเบรกเสีย ไฟเลี้ยวเสีย มีไฟส่องทางข้างเดียว ระบบเบรกไม่ดี ยางสึกไม่เกาะถนน และใบปัดน้ำฝนไม่ดี เป็นต้น เหล่านี้ล้วนป้องกันได้หากเราตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง

สภาพถนนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีต่างๆ นานา เช่น ถนนลื่น ผิวจราจรเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่มีราวกั้นถนน ไฟถนนไม่เพียงพอ ไม่มีป้ายจราจรหรือมีแต่ติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ไม่มีเครื่องหมายจราจรบนผิวถนน ไม่มีทางม้าลาย ไม่มีสะพานลอยให้คนเดินข้ามในย่านชุมชน และไม่มีสัญญาณไฟจราจรบริเวณที่มีรถมาก เป็นต้น

ดังกล่าวข้างต้น อุบัติเหตุจราจรส่วนใหญ่เกิดจากคนขับ ดังนั้น จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจราจรให้ได้ผลจะต้องมุ่งตรงไปที่ “การเข้มงวดกวดขันคนขับ” !

2. การเข้มงวดกวดขัน “คนขับ”

การขอความร่วมมือจากผู้ขับขี่ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมาตรการที่วางไว้มักไม่ได้ผลหากไม่มีการตรวจจับและลงโทษอย่างรุนแรง งานหนักจึงตกอยู่ที่ผู้บังคับใช้กฎจราจร ซึ่งหนีไม่พ้นตำรวจจราจร !

ดังนั้น กำลังตำรวจจราจรและอุปกรณ์ตรวจจับจะต้องพร้อม เมื่อทุกอย่างพร้อม การตั้งด่านจับกุมผู้ทำผิดกฎจราจรจะทำได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จับแล้วก็ต้องปรับให้หนัก และ/หรือ ขังคุกให้นาน ให้เข็ดไปเลย ถ้าจะให้ดีน่าจะแถมด้วยการให้ทำงานบริการสังคมด้วย ถือเป็นการลงโทษทางสังคม
มีบทพิสูจน์มาแล้วจากในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านๆ มา ไม่ใช่เป็นเพราะการตั้งด่านตรวจจับเป็นจำนวนมากหรอกหรือ จึงทำให้อุบัติเหตุจราจรลดน้อยลง จำนวนด่านตรวจจับจึงเป็นตัวแปรสำคัญในการลดอุบัติเหตุจราจร ด่านมากอุบัติเหตุน้อย ด่านน้อยอุบัติเหตุมาก

ด่านมากในที่นี้หมายความรวมถึงการตั้งด่านครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งถนนสายหลักและสายรอง รวมทั้งการเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบและจับกุม ไม่ปล่อยให้คนทำผิดหนีหลุดรอดไปได้ บางครั้งมีด่านตรวจจับอยู่ข้างหน้า แต่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บางคนกลับเลี้ยวรถขับหนีย้อนศรเฉยเลย ช่างท้าทายกฎหมายอย่างไม่กลัวตาย !

 

 

3. แนะ “นายกฯ” ลด “อุบัติเหตุจราจร”

การที่นายกฯ เศรษฐาจะไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนที่สถานีหมอชิต ทำให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนตระหนักได้ว่านายกฯ เอาจริงเอาจังต้องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและต้องการให้อุบัติเหตุจราจรลดน้อยลง แต่การไปตรวจเยี่ยมหมอชิตเพียงอย่างเดียว จะไม่ทำให้อุบัติเหตุจราจรลดลงได้

ด้วยเหตุนี้ ผมขอฝากนายกฯ พิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

(1) เข้มงวดกวดขันผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกด่านให้จับและลงโทษคนขับรถที่ทำผิดอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้หนีรอดไปได้

(2) ขอให้นายกฯ เสียสละเวลาช่วงวันหยุดสงกรานต์ (ซึ่งปกตินายกฯ ขยันทำงานแทบไม่มีวันหยุดอยู่แล้ว) ติดตามการทำงานของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ “วอร์รูมการติดตามสภาพการจราจรช่วงสงกรานต์” และอาจจะสุ่มลงพื้นที่บางพื้นที่ด้วยก็ได้ โดยไม่บอกให้ใครรู้ล่วงหน้า การทำเช่นนี้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตื่นตัวตลอดเวลาเพราะรู้ว่านายกฯ จับตามองอยู่

4. สรุป
หากนายกฯ ทำได้เช่นนี้ ผมมั่นใจว่าอุบัติเหตุจราจรช่วงสงกรานต์ในปีนี้จะลดน้องลงกว่าปี 2566 ซึ่งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 2,203 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,208 คน และเสียชีวิต 264 คน นายกฯ จะได้รับผลบุญมหาศาลที่สามารถช่วยลดจำนวนผู้บาดเจ็บ และ/หรือ ผู้เสียชีวิต รวมทั้งลดการสูญเสียทรัพย์สินลงได้

ถึงเวลานั้น หากมีใครมากระแนะกระแหนนายกฯ อีกว่า “ขยันแบบแมลงวันที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไร นอกจากได้สร้างภาพว่าบินโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” ผมจะออกมาเถียงคอเป็นเอ็นเลย ไม่เชื่อก็ลองดูสิ !

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปลือกโลกขยับ “เชียงใหม่” แผ่นดินไหวถี่ยิบ “กูรู” เผยสภาพ “เขื่อนแม่งัดฯ”
"สรรเพชญ" จี้เร่งสอบเหตุตึกสตง.ถล่ม ลั่นคือบทเรียนใช้งบฯแผ่นดิน ต้องคุ้มค่า-ปลอดภัย
"กินเนสก์บุ๊ค" เตรียมบันทึกสถิติโลก ฟ้อนเล็บคุ้มเจ้าหลวงอัตลักษณ์เชียงใหม่ ฉลองสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี
"อนุทิน" เปิดกระทรวงมหาดไทย ให้ขรก.อวยพรสงกรานต์ ขอบคุณ ทุกคนทำงานเต็มที่
กรมการค้าต่างประเทศ สั่งคุมเข้มสินค้าเฝ้าระวัง 49 รายการ เสี่ยงสูงส่งออกสหรัฐฯ
“เอกนัฏ” ปรับแผน สั่งทีมสุดซอย นำหมายศาลค้น “ซิน เคอ หยวน” เก็บคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หาข้อมูล
"ถ.มิตรภาพ" โคราช รถเริ่มมาก ปชช.ทยอยเดินทางกลับอีสาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หญิงชาติพันธ์ุไทเกล้า'มวยผมนกยูง'รับเทศกาลสาดน้ำในยูนนาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สุดล้ำ! จีนสร้าง 'อาคารสองชั้น' ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
สงกรานต์ปลอดภัย รัฐบาลคุมเข้มทางน้ำ! กรมเจ้าท่าขอความร่วมมือ “งดดื่มแอลกอฮอล์” บนเรือ ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น