เมียนมา ขาดแคลนแรงงานหลังชายหนุ่มหนีมาไทยกลัวถูกเกณฑ์ไปรบ

เศรษฐกิจย่ำแย่! เมียนมาเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนักหลังชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เผ่นหนีซ่อนตัวเงียบ บางส่วนหนีมาเมืองไทยวิตกถูกเกณฑ์ไปสนามรบ

สำนักข่าวอิรวดีรายงานเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 9 เมย.) เปิดเผยว่าบริษัทธุรกิจและห้างร้านต่างๆที่มัณฑเลย์กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก โดยพนักงานลูกจ้างและแรงงานได้ลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว นับตั้งแต่ที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้บังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงงานซึ่งส่วนใหญ่จ้างชายวัยฉกรรจ์เป็นลูกจ้างต้องเจอปัญหาคนงานลาออกกันเป็นแถว บางส่วนหนีกลับบ้านเกิดในชนบทห่างไกล และบางส่วนตัดสินใจเดินทางนอกประเทศ ส่วนใหญ่มาหางานทำที่ไทยหรือไม่ก็ไปจีน

อิรวดีเผยว่าเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและกลาง รวมทั้งร้านอาหาร ผับบาร์ต่างได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ขณะที่เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งเผยว่าเมื่อก่อนเคยมีคนงานชายอยู่ 60 คน ตอนนี้เหลืออยู่ครึ่งเดียว และว่าหากสถานการณ์สู้รบในเมียนมายังไม่ยุติในเร็วๆนี้ ธุรกิจห้างร้านต่างๆในมัณฑเลย์คงต้องปิดตัวอย่างแน่นอน

รัฐบาลทหารเมียนมาได้มีคำสั่งบังคับเกณฑ์ทหาร โดยกำหนดให้ชายอายุระหว่าง 18-35 ปีและหญิงอายุระหว่าง 18-27 ปี ทุกคนเข้าร่วมกองทัพอย่างน้อย 2 ปี เพื่อรับมือกับกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารที่เปิดปฏิบัติการโจมตีฐานทัพทหารเมียนมาหลายด้านรวมทั้งเมืองเมียวดี ติดพรมแดนแม่สอดของไทย แต่ขณะนี้ยังเกณฑ์เฉพาะชายหนุ่ม ชายบ้านในพื้นที่เผยว่าหลังจากประกาศเพียง 5 วัน รัฐบาลทหารได้ส่งเจ้าหน้าที่รัฐ มีทั้งตำรวจ ทหารและข้าราชการเดินทางมาที่มัณฑเลย์เพื่อเก็บข้อมูลประชาชนที่เข้าข่ายเป็นทหาร โดยมีการบุกเข้าตรวจค้นตามบ้านเรือนและอาคารร้านค้าโดยไม่ต้องมีหมายค้น โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเยาวชนชาย, ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น รวมทั้งมีการข่มขู่จำคุกสมาชิกในครอบครัวหากปล่อยให้ผู้เข้าข่ายเกณฑ์ทหารหลบหนี

ทั้งนี้ชายหนุ่มรายหนึ่งเล่าว่าเขาตัดสินใจลาออกจากโรงงานในเขตอุตสาหกรรมมัณฑเลย์ ทั้งๆที่เพิ่งสมัครเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาตัวเอง ก่อนหนีไปกบดานที่บ้านเกิดที่จังหวัดสะกาย

นักเศรษฐศาสตร์เมียนมาชี้ว่าหนุ่มสาวเมียนมาที่หนีมาไทยและจีนเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัวหลังจากกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้เมียนมาต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์และกระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รวมทั้งส่งผลต่อ GDP ของประเทศ และเมื่อไรที่เริ่มมีการเกณฑ์ผู้หญิง สถานการณ์ก็จะรุนแรงยิ่งกว่านี้แน่นอน

รายงานเผยว่าแม้รัฐบาลทหารเคยประกาศว่าจะเริ่มฝึกทหารเกณฑ์ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ในความเป็นจริงกลับเริ่มฝึกตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมแล้ว และที่บอกว่าจะเกณฑ์แค่ 5 พันคนต่อปี แต่ดูรูปการณ์แล้วน่าจะเกณฑ์มากกว่าที่กำหนดอีกเท่าตัว เนื่องจากกองทัพกำลังเพลี่ยงพล้่ำให้กับกองกำลังต่อต้านในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส" ร่วมผู้ว่าฯพะเยา เดินหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยต้นผึ้ง เผยกักเก็บน้ำ 2 แสนลิตร เป็นประโยชน์ชาวบ้าน เกษตรกร กว่า 700 ครัวเรือน
ทำเนียบขาวสหรัฐ เผย 50 ประเทศ เริ่มขอเจรจา "ทรัมป์" ปมภาษีนำเข้า
อุตุฯเตือนรับมือ พายุฤดูร้อนถล่ม 38 จังหวัด เหนือ-อีสาน หนักสุด กทม.ก็โดนด้วย
กทม.แจงปรับแผนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต "ตึกสตง.ถล่ม" รอยืนยันจากนิติเวช ก่อนขึ้นบอร์ด
"พรรคสังคมประชาธิปไตย" ออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ ย้ำจุดยืนต้านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์+กาสิโน ชี้ปชช.ไร้ส่วนร่วมตัดสินใจ
"นายกฯ" วางพานพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึก "มหาจักรี"
สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย เข้าพบ "ดร.ปราจิน"  รับมอบเงิน  6 แสนบาท สมทบทุนซื้อ "ไม้เท้าขาว" ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการทางสายตาทั่วประเทศ
“DITP" ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ยกทัพบุก 5 จังหวัดชายแดนใต้ ปั้นนักรบการค้า "ฮาลาล" สู่ตลาดโลก
กู้ภัยพบเพิ่มอีก 1 ศพ เร่งนำร่างออกจากตึกสตง. "รองผู้ว่าฯกทม." ย้ำจากนี้ต้องรอนิติเวช ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิต ป้องกันเกิดความสับสน
เอาแล้ว “อ.ไชยันต์” ถือฤกษ์วันจักรี ประกาศสมัครเป็นตุลาการศาลรธน.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น