สถานการณ์น้ำท่วมในรัสเซียยังคงวิกฤต หลังหิมะและธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักหลายสาย ที่ตัดผ่านรัสเซียและคาซัคสถานเอ่อล้น แม่น้ำหนึ่งซัดตลิ่งแตก ทำหลายหมู่บ้านจมบาดาล
เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สถานการณ์น้ำท่วมจากเหตุเขื่อนแตก ยังไม่ท่าทีผ่อนคลายลง ซ้ำร้าย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ทำให้หิมะและน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว จนทำให้แม่น้ำสายหลักหลายสายที่ตัดผ่านรัสเซียและคาซัคสถานเอ่อล้นออก และแม่น้ำทอม แม่น้ำสำคัญอีกสายหนึ่งได้ซัดตลิ่งแตก ส่งผลให้ ถนนและหมู่บ้าน 3 แห่ง ที่แคว้นทอมสค์ในไซบีเรีย ห่างจากมอสโกไปทางตะวันออก 3 พันกิโลเมตร จมอยู่ใต้น้ำ
ส่วนที่แคว้นโอเรนเบิร์ก ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และอาคารที่อยู่อาศัยหลายพันหลังจมอยู่ใต้น้ำ ระดับน้ำในแม่น้ำอูราลซึ่งไหลผ่านตัวเมือง เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เมตร นับตั้งแต่เช้าวันพุธ และในเช้าวันพฤหัสบดี ระดับน้ำมีความสูง 10.6 เมตร ซึ่งเกินกว่าระดับที่เจ้าเรียกว่า “ระดับวิกฤติ” ถึง 1.3 เมตร และเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ในเมืองโอเรนเบิร์กที่มีชื่อเดียวกับแคว้น และมีประชากรราว 5 แสนคน มีอาคารที่พักอาศัยอีก 400 หลังถูกน้ำท่วมเพิ่มเติม ในวันที่ผ่านมา
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สถานการณ์ยังคงรุนแรง และเจ้าหน้าที่แคว้นทูเมน ในไซบีเรียเตือนว่า แม่น้ำโทโบลและอิชิมจะไม่ถึงระดับสูงสุด จนกว่าจะถึงวันที่ 23 ถึง 25 เมษายน ตามการคาดการณ์จากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของรัสเซีย
ขณะที่คาซัคสถาน ประเทศเพื่อนบ้าน การอพยพยังดำเนินต่อไป ประชาชนถูกบังคับให้ออกจากบ้านไปแล้วราว 1 แสนคน โดยที่เมืองเปโตรปาฟลอฟสค์ ของคาซัคสถาน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 แสนคน เจ้าหน้าที่ประกาศเตือน ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วมร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า