RT รายงานว่านายพลจัตวาโมฮัมหมัด เรซา แอชเทียนี่ รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 14 เมย.) เตือนประเทศต่างๆที่ไม่เกี่ยข้องกับความข้ดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลอย่าเข้ามายุ่งกับกิจการของสองประเทศ พร้อมขู่ว่าประเทศใดก็ตามเปิดน่านฟ้าหรือดินแดนให้อิสราเอลเข้าไปใช้ในปฏิบัติการโจมตีอิหร่านจะต้องได้รับผลจากการกระทำ
ขณะที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำยูเอ็นก็เรียกร้องสหรัฐให้วางเฉย และอย่ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ชี้ชัดสงครามครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างสองประเทศ
ก่อนหน้านี้อิหร่านเคยประกาศว่าอิหร่านมีสิทธิชอบธรรมที่จะใช้มาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิการปกป้องตนเอง หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายนก่อน
ด้านชาวอิหร่านออกมาแสดงความสนับสนุนรัฐบาลของตนให้เปิดสงครามกับอิสราเอล “ถ้าจำเป็น” เพื่อแก้แค้นที่สถานทูตอิหร่านถูกโจมตี
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านมีขึ้นหลังกองทัพอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธและโดรนกว่า 300 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้จอร์แดนและ เลบานอนสั่งปิดน่านฟ้าทันที จอร์แดนยังได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย และล่าสุดวันนี้ สิงคโปร์แอร์ไลน์สได้สั่งระงับการบินผ่านน่านฟ้าอิหร่านแล้ว หลังจากสายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนีและออสเตรียได้ระงับไปก่อนหน้านี้