วิเคราะห์พุ่งเป้า "คาร์บอนมอนอกไซด์" (CO) นักฆ่าไร้เสียง เหตุ 5 ผู้โดยสารรถตู้ อ้วก หมดสติ หวิดดับ เทศกาลสงกรานต์ 2567 เตือนรับพิษเรื้อรัง เสี่ยงมะเร็งหรือไม่
ข่าวที่น่าสนใจ
อ้วก หมดสติ หวิดดับ
คลิปเหตุการณ์ผลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้โดยสารรถตู้โดยสารสาธารณะ ยโสธร – มุกดาหาร ทะเบียน 10-1945 ยโสธร จำนวน 5 ราย ที่หมดสติบนรถ บางรายมีอาการหน้ามืด อาเจียน และสลบ ซึ่งพลเมืองดีก็ได้นำน้ำมาชโลมร่างกายพร้อมทั้งนำตัวส่ง รพ.ยโสธร โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธร ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองยโสธร เมื่อช่วงเวลา 15 นาฬิกา 45 นาที เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ขณะที่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของ จนท.ตร. คาดว่า น่าจะเกิดจากที่อากาศร้อนอบอ้าว เครื่องปรับอากาศในรถโดยสารไม่เย็น ประกอบกับผู้โดยสารมีจำนวนมาก แออัด จนทำให้อากาศไม่เพียงพอ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจของผู้โดยสารภายในรถ ทั้งนี้ คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี
“คาร์บอนมอนอกไซด์” นักฆ่าไร้เสียง?
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) วิเคราะห์ 5 ผู้โดยสารรถตู้ อ้วก หมดสติ หวิดดับ ว่า จากอาการที่กล่าวมาทั้งหมด ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นการได้รับก๊าซ Carbon Monoxide (CO) ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงรถยนต์ และมีการรั่วไหลเข้าภายในรถตู้ อาจเป็นเนื่องจากมีการรั่วของระบบท่อไอเสีย เป็นต้น
โดยอาการของการเป็นพิษจากก๊าซ Carbon Monoxide อาทิ ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจไม่ออก สับสน ตาพร่า ในกรณีที่รุนแรงอาจมีอาการหมดสติ
สำหรับก๊าซ Carbon Monoxide เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงต่าง ๆ เช่น แก๊ส น้ำมัน ถ่าน หรือไม้ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มาก ก๊าซนี้จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ด้าน ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า อาการผู้โดยสารตามข่าว เหมือนได้รับก๊าซ Carbon Monoxide เข้ากระแสเลือดมากเกินไป ไม่ใช่รถอับ จนอากาศไม่พอหายใจ หรือหายใจเอาก๊าซ CNG รั่วเข้าไป
ก๊าซ Carbon Monoxide นี้ ไม่มีกลิ่น (ไม่เหมือน CNG ที่มีกลิ่นแรง) และเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ รถตู้น่าจะมีรอยรั่วซึมที่ทำให้ก๊าซนี้จากเครื่องยนต์ เข้ามาได้เยอะกว่าปรกติ จนเกิดอันตรายกับผู้โดยสาร ต้องรีบเอารถไปตรวจสอบแก้ไข
ตามข้อมูลของโรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า ก๊าซ Carbon Monoxide เป็นอีกหนึ่งก๊าซพิษที่ทำร้ายร่างกาย มีความอันตรายถึงชีวิต โดยที่ก๊าซดังกล่าวยังคงปะปนอยู่ในอากาศ หลายครั้งที่มีการสูดดมเข้าไปในปริมาณมากก่อให้เกิดโรคร้ายตามมา และบางกรณียังทำให้เสียชีวิตฉับพลัน
เมื่อร่างกายได้รับก๊าซ Carbon Monoxide CO จะแย่งจับฮีโมโกบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงส่วนที่เหลือไม่ปล่อยออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ร่างกายจึงขาดออกซิเจน เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หมดสติ ชัก โคม่า และเสียชีวิตในที่สุด
ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
หากได้รับพิษเรื้อรัง?
สำหรับอาการที่เกิดจากการสูดหายใจเอาก๊าซ “คาร์บอนมอนอกไซด์” เข้าไป แต่ในปริมาณน้อย ๆ และต่อเนื่อง อาจเป็นหลาย ๆ สัปดาห์หรือเป็นเดือน ซึ่งอาการที่พบจะไม่มาก แต่มักเกิดต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีอาการเฉพาะ แต่เป็นอาการทั่วไปคล้ายที่เกิดจากหลากหลายสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากสูดดมก๊าซนี้ เช่น
- ปวดหัว
- วิงเวียน
- คลื่นไส้ อาจมีอาเจียน
- สับสน
- หลงลืมผิดปกติ
- หูได้ยินลดลง
ทั้งนี้ ถ้าหาสาเหตุได้แต่เนิ่น ๆ และหยุดการสูดดมก๊าซนี้ และรักษาได้ทัน อาการมักหายเป็นปกติ ยกเว้นบางคนที่สูดดมก๊าซนี้ต่อเนื่องนาน ๆ หลาย ๆ ปี
นอกจากนี้ การสูดดมก๊าซนี้ในปริมาณน้อย ๆ ต่อเนื่อง เช่น จากควันในการเผาไหม้สารอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น ควันจากการปิ้งย่าง หรือการเผา ไม้ หญ้า มักส่งผลให้อาการทางโรคหัวใจและหลอดเลือดแย่ลง หรืออาจเกิดปัญหาในการเจริญเติบโตต่อทารกในครรภ์ในกรณีผู้สูดดมตั้งครรภ์
CO ก่อมะเร็ง?
ต้องบอกก่อนว่า ความรุนแรงของพิษ Carbon Monoxide ขึ้นกับหลายปัจจัย ถ้าได้รับในปริมาณน้อย อาการต่าง ๆ จะเป็นอยู่ชั่วคราว และสามารถหายเป็นปกติได้
ถ้าได้รับก๊าซนี้ ปริมาณสูง อาจเป็นสาเหตุถึงตายจากสมอง ปอด และหัวใจขาดออกซิเจนเฉียบพลัน
กรณีได้รับก๊าซนี้ในระดับรุนแรง แต่ไม่ถึงทำให้เสียชีวิต อาการทางปอด หัวใจ และสมอง อาจค่อย ๆ ดีขึ้น แต่มักรักษาไม่หายกลับเป็นปรกติ โดยเฉพาะในด้านความจำ ซึ่งอาการเหล่านั้นอาจส่งผลให้ต้องอยู่ในการดูแลต่อเนื่องของแพทย์
สำหรับในด้านโรคมะเร็ง องค์กรด้านโรคมะเร็งขององค์การอนามัยโลก (IARC: The International Agency for Research on Cancer) จัดให้ก๊าซนี้ ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในคน
อย่างไรก็ดี นอกจากพิษ “คาร์บอนมอนอกไซด์” ที่เราอาจจะต้องระวังเมื่อออกจากบ้านแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามพิษก๊าซนี้ในบ้านเด็ดขาด โดยเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยการดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ในบ้านที่สามารถให้กำเนิดควัน ไม่ให้อยู่ในสภาพที่ชำรุดทั้งจากที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ที่รวมถึงสูบบุหรี่ในบ้าน และจัดบ้านเรือน โดยเฉพาะสถานที่ ๆ ใช้เครื่องไฟฟ้าและก๊าซต่าง ๆ ต้องมีการระบาย/หมุนเวียนอากาศที่ดี เพื่อป้องกันการสะสมควันต่าง ๆ ที่มีก๊าซนี้ปนอยู่ด้วยก็จะปลอดภัยที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
