Top News เปิดใจ ผู้หนีภัย “ชาวเมียนมา” ซึ้งน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน เผยสถานการณ์สู้รบรุนแรง

เปิดใจหญิงชาวเมียนมาที่ข้ามแดนหนีภัยการสู้รบมาอยู่ประเทศไทย ยืนยันสถานการณ์สู้รบรุนแรง บ้านตนเองได้รับความเสียหาย เพื่อนบ้านถูกฆ่าตายหลายศพ จากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ซึ้งน้ำใจคนไทยให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี เผยถ้าข้ามกลับไปเท่ากับไปตาย

Top News เปิดใจ ผู้หนีภัย “ชาวเมียนมา” ซึ้งน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน เผยสถานการณ์สู้รบรุนแรง – Top News รายงาน

ชาวเมียนมา

วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าว Top News ได้พูดคุยกับหญิงสาวชาวเมียนมารายหนึ่งที่หนีภัยการสู้รบมาพักอาศัยชั่วคราว ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่มาเช่าห้องพักภายในตัวอำเภอเมืองแม่สอด มีลูกชายและแม่ตามมาด้วย เธอบอกว่าที่พักแห่งนี้มีแต่ชาวเมียนมาที่มาอาศัยอยู่ที่นี่หลายสิบครอบครัว โดยเจ้าของที่พักชาวไทยให้การดูแลเป็นอย่างดี

เธอเริ่มตอบคำถามแรกว่า เวลานี้ชาวเมียนมาส่วนใหญ่เริ่มข้ามกลับ แต่ทำไมเธอยังตัดสินใจอยู่ในเมืองไทยต่อ เธอตอบว่า บ้านเธออยู่ในจุดสำคัญที่มีการสู้รบ แม้ตอนนี้อาจหยุดยิงชั่วคราว แต่ที่ยังหวาดกลัวและไม่ข้ามกลับไป คือ เธอและครอบครัวเกือบต้องจบชีวิตลงจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา คืนนั้นมีการสู้รบอย่างรุนแรง บ้านของเธอได้รับความเสียหายจากกระสุนและระเบิด เธอและครอบครัวจึงหลบหนีออกมา โดยใช้เส้นทางลัดที่จะมาออกทางชายแดน เนื่องจากบ้านของเธออยู่ไม่ห่างจากสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มีเพื่อนบ้านหนีตามออกมาด้วย เกือบ 10 คน

แต่เพื่อนบ้านโชคร้ายกว่า เพราะใช้เส้นทางผิด ไปเจอกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ใส่ชุดลายพรางแต่ไม่บอกสังกัด ใช้ปืนยิงเข้าไปในรถ จนเสียชีวิต 5-6 ราย ที่เหลือบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด ส่วนเธอและครอบครัว ต้องรอถึงเช้า ก่อนจะข้ามแดนมาทางฝั่งสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ในช่วงเช้าวันที่ 20 เมษายน

ส่วนสามีของเธอไม่ได้ข้ามมาเนื่องจากเป็นห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว และเป็นห่วงทรัพย์สิน จึงตัดสินใจกลับบ้านและจะข้ามตามมาภายหลัง แต่ปรากฏว่า ด่านปิดจึงไม่สามารถข้ามมาได้ ตอนนั้นยังมีการสู้รบรุนแรงอยู่ตลอดเวลาเสียงระเบิดดังไปทั่ว

ข่าวที่น่าสนใจ

หญิงสาวเมียนมารายนี้ยังบอกอีกว่า วันที่ 26 เมษายนที่จะถึงนี้ จะครบกำหนดที่เธออยู่ในอำเภอแม่สอดและเธอต้องไปปั๊มตราประทับจากตม.แม่สอดเพื่อขยายการอยู่ในประเทศไทยออกไป และไม่รู้ว่าจะได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อหรือไม่ เนื่องจากลูกของเธอเรียนอยู่ในอำเภอแม่สอด ส่วนคุณแม่ของเธอก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องรักษาอยู่ในโรงพยาบาลแม่สอด ถ้า ตม.ไม่อนุญาตก็เหมือนกับส่งเธอกลับไปตาย

อย่างไรก็ตามเธอซึ้งน้ำใจ คนไทยที่ให้การช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ เจ้าของที่พักคนไทยที่อนุญาตให้เธอและชาวเมียนมาพักอาศัย รวมไปถึงคนไทย อื่นๆ ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
Top News

หญิงสาวชาวเมียนมารายนี้ยัง เล่าถึงความขัดแย้งทางความคิดทางการเมือง ว่า สามีของเธอมีพี่ชายที่ความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน พี่ชายของสามีจะศรัทธาผู้นำทหารเมียนมา ส่วนสามีเธอศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงทำให้เกิดความขัดแย้งกันบ่อยๆจนถึงขนาดพี่ชายแจ้งจับน้องชายเธอมาแล้ว

เธอยืนยันว่า ถ้ากลับไปเธออาจต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆหนีภัยสงคราม แต่ถ้าอยู่ในประเทศไทยเธอเชื่อว่า ยังไงคนไทยก็ต้องช่วยเธออยู่แล้วในฐานะมนุษยธรรม เธอคิดว่าประเทศไทยปลอดภัยที่สุดสำหรับครอบครัวเธอ ส่วนตัวมองว่า ที่ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ ข้ามกลับไปเพราะความจำเป็นเนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินญาติพี่น้องหรือคนในครอบครัวที่ไม่ได้ข้ามตามมา แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่สงบก็ต้องข้ามกลับมาอยู่ดี อยากให้เพื่อนร่วมชาติตัดสินใจดีๆที่จะข้ามไป

เธอทิ้งท้ายว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างสาหัส ทำไมประชาชนต้องมารับเคราะห์แทน ถ้าจะทิ้งระเบิดทำไมไม่ทิ้งไปที่ศัตรู ทำไมต้องทิ้งมา ถูกประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย

ซึ้งน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น