ศาลลงโทษ “การ์ดวีโว่” จุ้นเรื่องเมียนมา ก่อม็อบต้าน “มินอ่องหล่าย” รัฐประหาร

ศาลอุทธรณ์ยืนตามชั้นต้น ลงโทษ “หนุ่ม3นิ้ว” การ์ดวีโว่ แส่เรื่องเมียนมา ร่วมม็อบป่วนสถานทูต ต่อต้าน “มิน อ่อง หล่าย” ทำรัฐประหาร

ศาลลงโทษ “การ์ดวีโว่” จุ้นเรื่องเมียนมา ก่อม็อบต้าน “มินอ่องหล่าย” รัฐประหาร    Top News รายงาน 

 

 

การ์ดวีโว่

ข่าวที่น่าสนใจ

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายฝ่ายต่างจับตาสถานการณ์การสู้รบในพม่าอย่างใกล้ชิด โดยกองกำลังผสมฝ่ายกะเหรี่ยง เข้ารุกคืบ โจมตีทหารพม่าในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้หนีภัยสงครามจำนวนมาก หนีตายข้ามมายังฝั่งไทย

ขณะที่ ในบ้านเราก็มีการตัดสินคดีความ ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่าเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครใต้ นัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีของ วิชพรรษ แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว จากกลุ่ม We Volunteer วัย 24 ปี ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน พรบ.โรคติดต่อ เหตุจากการร่วมชุมนุม Stand With Myanmar เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 หน้าสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ถนนสาธรเหนือ เพื่อต่อต้านการรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย

โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือให้ยกฟ้องข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่เชื่อว่า จำเลยทราบประกาศ ให้ยุติการชุมนุมจากเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่ได้ทำตามคำสั่ง ที่อ้างว่า ไม่ได้ยินประกาศ เป็นการกล่าวอ้างที่ไม่น่าเชื่อถือ จำเลยมีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ลงโทษปรับ 10,000 บาท แต่ให้แก้เป็นการปรับเป็นพินัย เนื่องจาก พ.ร.บ.การปรับเป็นพินัย มีผลบังคับใช้แล้ว

สำหรับเหตุการณ์ในคดีนี้ เกิดขึ้นภายหลังมีการรัฐประหารในประเทศพม่า ช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.พ. 2564 ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมชาวพม่าและคนไทยบางส่วน ออกมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตพม่า

ในวันเกิดเหตุ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ซึ่งถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประกาศให้ยุติการชุมนุมในเวลา 16.16 น. ผู้ชุมนุมได้ทยอยแยกย้ายกลับ แต่ยังมีกลุ่มการ์ดเหลืออยู่บางส่วน จนเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมโล่และกระบอง ได้นำกำลังเข้าสลายการชุมนุม โดยเดินตั้งแถวเข้าไปยังพื้นที่ที่ผู้ชุมนุม ที่ยังรวมตัวกันอยู่ จึงเกิดการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่

ต่อมาเวลา 17.20 น. พบว่ามีผู้ถูกจับกุมทั้งสิ้น 3 ราย โดยรายหนึ่งเป็นประชาชนที่มาร่วมชุมนุม และอีกสองรายเป็นทีมการ์ดของกลุ่มวีโว่ ซึ่ง “วิชพรรษ” คือหนึ่งในผู้ถูกจับกุม

ในชั้นสอบสวนวิชพรรษถูกแจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา ตลอดคืน จนวันรุ่งขึ้น พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลฝากขัง ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง ทนายความจึงยื่นคำร้องขอประกันตัว ศาลก็มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์

หลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้อง ต่อศาลแขวงพระนครใต้ และคดีเสร็จสิ้นการสืบพยาน เมื่อวันที่ 5 ต.ค.65 ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่ลงโทษปรับตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท เนื่องจากเห็นว่า จำเลยฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค ซึ่งในวันดังกล่าว วิชวรรษได้จ่ายค่าปรับทั้งสิ้น 9,500 บาท เนื่องจากถูกคุมขังไป 1 วัน ระหว่างถูกจับกุม จึงหักค่าปรับไป 500 บาท

กระทั่งล่าสุด 23 เม.ย. 67 วิชพรรษ เดินทางมายังห้องพิจารณาคดีที่ 7 เพื่อฟังคำพิพากษาตามนัดหมาย มีใจความสำคัญโดยสรุปว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีรายงานว่า มีรถยนต์เจ้าพนักงานที่ติดลำโพง ซึ่งเป็นรถคันเดียวกับที่ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ประกาศให้ยุติการชุมนุม จอดอยู่ไม่ไกล กับรถกระบะสีแดง ที่จำเลยยืนอยู่ อีกทั้งยังมีลำโพงขนาดใหญ่ 2 ตัว หันไปทางผู้ชุมนุมและจำเลย น่าเชื่อว่า จำเลยทราบประกาศของเจ้าพนักงานแล้ว แต่มิได้ทำตามคำสั่ง ที่อ้างว่าไม่ได้ยินประกาศ นับว่าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่น่าเชื่อถือ

พยานโจทก์รับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานฝ่าฝืนดำเนินการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดสภาวะไม่ถูกสุขลักษณะ และอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย และโรคระบาดแพร่ออกไป ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง อนุ 6 และมาตรา 51 ให้ปรับเป็นพินัย 10,000 บาท นอกจากนี้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น

หลังจากที่ศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว วิชพรรษได้ลงไปดำเนินการเรื่องค่าปรับพินัย แต่เนื่องจากจำเลยได้ชำระค่าปรับไว้แล้วต่อศาลชั้นต้น ในชั้นอุทธรณ์จึงไม่ต้องชำระค่าปรับอีก

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น