logo

มาหล่อเลย! “ปิยบุตร” แนะรัฐบาล 2 วิธีทำรธน.ใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 โดยไม่เสี่ยงทำประชามติสูญเปล่า

มาหล่อเลย! "ปิยบุตร" แนะรัฐบาล 2 วิธีทำรธน.ใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 โดยไม่เสี่ยงทำประชามติสูญเปล่า ถ้าไม่ผ่านเข้าทางพวกหนุน รธน.ปี60 จะยิ่งอ้างความชอบธรรม

TOP News รายงานข่าว นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ถ้ารัฐบาลอยากทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่แตะหมวด 1,2 ก็ไม่ควรเสี่ยงกับประชามติ 3 ครั้ง โดยระบุว่า จุดยืนผมสนับสนุนการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ การทำใหม่ทั้งฉบับก็คือ การทำใหม่ทุกหมวด ทุกมาตราอยู่แล้ว มีข้อห้ามแค่เพียงห้ามเปลี่ยนรูปของรัฐและระบอบการปกครองเท่านั้น ในอดีต 40 ,50 ,60 ก็ปรับปรุงสองหมวดนี้มาโดยตลอด ผมเองก็เห็นว่าในหมวด 1 และหมวด 2 มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุง และเคยยกร่างเป็นแบบไว้แล้ว แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆที่ร่วมรัฐบาลประสงค์จะทำรธน.ใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ก็ไม่ควรเดิน “เกมเสี่ยง” ใช้ประชามติ 3 ครั้ง แต่ควรเลือกทางที่ปลอดภัยกว่า ทางใด ทางหนึ่ง ดังนี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ปิยบุตร” แนะ2วิธีแก้รธน.ได้ผลลัพธ์โดยไม่แตะหมวด1และ2

1. ดำเนินการตามมติคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล แถลงที่สภาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 67 ที่ยืนยันทำประชามติ 2 ครั้ง คือ สส.เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อผ่านรัฐสภา ก็ต้องมาประชามติ ครั้งที่ 1 เมื่อผ่านก็เลือก สสร.มาทำใหม่ เมื่อได้ร่างใหม่ ก็เอามาประชามติครั้งที่ 2 หากอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 ให้ดี ศาลไม่ได้บอกว่าต้องทำ 3 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง หากแก้ในรัฐสภาเพื่อเปิดทางให้มี สสร.ก่อน ก็ต้องไปจบที่ประชามติตามมาตรา 256 อยู่แล้ว เมื่อมี สสร.มาร่างใหม่โดย สสร.นี้ ก็ต้องไปจบที่ประชามติ เช่นนี้ ก็เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ แต่ถ้ายังกังวลกันอีก ก็สามารถอธิบายได้ว่าการทำใหม่แบบไม่แก้ หมวด 1,2 ย่อมไม่ใช่การทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ในความหมายที่ปรากฏในคำวินิจฉัย 4/64

2. ใช้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 รายมาตรา ตั้งแต่ มาตรา 25-มาตรา 279 ไปเลย เว้น มาตรา 1-24 ในหมวด 1 และ 2 ไว้ อาจบอกกันว่าแก้รายมาตราจะไปติด สว.อีก แต่สภาพดุลอำนาจตอนนี้ พรรคเพื่อไทยน่าจะคุยกับ สว.รู้เรื่องกว่าแต่ก่อน และเดือนหน้า สว.250 คน ก็จะพ้นไปแล้ว การใช้วิธีนี้จะเป็นการไม่แก้ หมวด 1,2 โดยไม่ต้องพูดชัดแจ้งว่าจะไม่แก้หมวด 1,2 ให้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา การใช้วิธีนี้เป็นการยกประเด็นการแก้เรื่องหมวด 1 หมวด 2 ออกไปจากรัฐสภาโดยปริยาย สมาชิกและประชาชน ก็ต้องมาโฟกัสหมวดอื่นๆแทน

ทั้ง 2 วิธีนี้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ตามที่รัฐบาลต้องการ ไม่แตะหมวด 1,2 โดยไม่ต้องไปเสี่ยงกับประชามติรอบแรกว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะถ้าไม่ผ่าน พวกสนับสนุนรัฐธรรมนูญ 60 จะยิ่งอ้างความชอบธรรมมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลา และประหยัดเงิน 3,200 ล้านบาท

“ก้าวไกล” ดิ้นเฮือกสุดท้ายขอ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยืด 30 วันแก้ต่างคดีล้มล้างต่อเวลายุบพรรค มั่นใจไม่เลวร้ายไปกว่ายุบ “อนาคตใหม่”

จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกลในคดีล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขและเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข โดยเมื่อวันที่ 2 เมษายน พรรคก้าวไกลได้ยื่นขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 30 วันต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อวันที่ 17 เมษายน ศาลฯได้อนุมัติขยายเวลาให้พรรคก้าวไกล ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรค 15วัน ครบกำหนดวันที่ 3 พฤษภาคม2567

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวถึงการยื่นขอขยายเวลาในการทำเอกสารชี้แจงคดียุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวานนี้(23เม.ย.)ทางทีมกฎหมายของพรรคก้าวไกลได้ไปยื่นขอเวลาเพิ่มอีกครั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าวันนี้ศาลฯคงพิจารณารวมถึงมีคำสั่งว่าจะให้ขยายหรือไม่ หวังว่าวันนี้คงมีความชัดเจน ซึ่งเราอยากขยายเวลาอีก เพราะเดิมขอขยายไป 30วัน แต่ได้รับการขยายไปแค่ 15วัน โดยเห็นว่าไม่เพียงพอ

“เรื่องนี้กระทบกับพรรคใหญ่มาก การจะเขียนคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต้องมีความละเอียด จำเป็นต้องแสวงหาข้อมูลทางกฎหมายและข้อเท็จจริงมาโต้แย้งให้มากที่สุด ในกระบวนการยุติธรรมที่ดี ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้อง โดยเฉพาะคดีกล่าวหาร้ายแรง ถึงขั้นยุบพรรค และ ตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ รวมถึงจำเป็นต้องแสวงหาพยาน และข้อเท็จจริง ให้ศาลไต่สวนอย่างถึงที่สุด เพราะน้ำหนักของบทลงโทษต่างจากคดีที่ผ่านมา ที่มีการวินิจฉัยตามมาตรา 49 ที่เป็นเพียงสั่งให้ยุติการกระทำ จึงคิดว่าศาลน่าจะพิจารณาขายเวลาให้เราออกไปอีก”หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่าพรรคก้าวไกล ขอขยายออกไปอีก 30วัน เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติม เราจึงอยากอ่านรายละเอียดอีกรอบว่า มีการแก้อะไรไปบ้าง และคดีนี้มีบทลงโทษร้ายแรงมาก ดังนั้นการหาแง่มุมต่อสู้ทางกฎหมายและข้อเท็จจริง ลำพังเพียงคำวินิจฉัยของศาล รธน.ในคดีที่ให้ยุติการกระทำอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เพียงพอในการกล่าวหาเพื่อร้องให้ยุบพรรค และพยานบุคคลที่จะเสนอให้ศาลไต่สวนก็ต้องใช้ระยะเวลาในการพูดคุยว่าจะยินดีหรือไม่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาติดวันหยุดสงกรานต์ไปหลายวัน จึงมองว่าเหมาะสมที่จะให้โอกาสขยายระยะเวลาเพิ่มเติม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคจะถูกยุบและทำให้สส.ของพรรคมีการย้ายแบบข้ามขั้ว จะมีการพูดคุยกันหรือมีสัญญาใจอะไรกันหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าตนเชื่อว่าสส.ของพรรคก้าวไกลในรุ่นนี้ น่าจะมีสถานการณ์ไม่แย่ไปกว่าในคราวที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเราเข้าใจดีถึงความต้องการ และความคาดหวัง รวมถึงเสียงที่ได้รับจากประชาชนอย่างล้มหลามที่ต่างจากสมัยพรรคอนาคตใหม่ แต่เราก็ทำงานอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน

“ผมก็พยายามบอกเพื่อนๆในพรรคว่าอย่าไปสร้างบรรยากาศในการสร้างความไม่ไว้วางใจ หรือไปล่าแม่มดกัน ประเด็นสำคัญสุดตอนนี้คือการพูดคุยทิศทางการทำงานของพรรค เป้าหมายที่ชัดเจนหลังจากนี้ เพื่อทำให้พรรคก้าวไกลพัฒนา และทำงานตอบสนองประชาชนมากขึ้น และที่สำคัญการสัมมนาช่วงประชุมใหญ่พรรคที่ผ่านมา เรามีการพูดถึงการต่อสู้คดีและความเป็นไปได้ทางการเมืองที่เราจะไม่ถูกยุบพรรคยังมีอยู่ บรรยากาศแรกหลังมีคำวินิจฉัยในในคดีที่แล้ว คนจำนวนมากอาจจะคิดว่าพรรคยุบแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ จนมาถึงวันนี้ความคิดที่ว่าพรรคก้าวไกลน่าจะมีช่องทางในการต่อสู้ยังมีอยู่” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย
จนท.บุกตรวจ "แรงงานต่างด้าว" 149 คน แอบเช่าบ้าน 2 หลังในชุมชนขอนแก่น เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
"วรชัย" วอน "เสรีพิศุทธ์" อย่าตั้งเป้าโจมตี ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน ให้เวลาพิสูจน์แก้ปัญหาปชช.
“อ.ธรณ์” ห่วง “ฮาลองเบย์” สถานที่สวยงาม ถูกพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" พัดถล่ม หวังให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย
ไร้ปาฏิหาริย์ พบแล้ว "นทท.เบลเยี่ยม" หลังหายตัวลึกลับ ทีมค้นหาพบร่าง บริเวณท้ายฝาย "น้ำตกแม่เย็น"
"พิพัฒน์" เดินหน้า 1 ต.ค. ปรับค่าแรง 400 พร้อม 7 มาตรการ ลดกระทบนายจ้าง-ลูกจ้าง ถกพณ.คุมสินค้าแพง
เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ตราดรับฟังสถานการณ์บริหารจัดการน้ำรับมือน้ำท่วมหลังพายุไต้ฝุ่นนางิ และ ฝนตกหนักกลางเดือนกันยายน หวั่นท่วมรอบ 2
น่าห่วง "แม่น้ำยม" สายหลักพิษณุโลก เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ไหลท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำทุกหมู่บ้านแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น