คิวเอสอาร์ แบรนดส์ (QSR Brands) ผู้ประกอบกิจการแฟรนไชส์ KFC ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ในมาเลเซีย ทยอยปิดร้านสาขา “ชั่วคราว” ทั่วประเทศ โดยสื่อภาษาจีนในมาเลเซีย ที่รายงานเรื่องนี้เป็นสำนักแรก ตรวจสอบจากกูเกิล แมป พบร้าน KFC ที่ขึ้นสถานะว่า ปิดชั่วคราว จำนวน 108 แห่ง ณ วันที่ 27 เมษายน แต่บริษัทฯยังไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ
หลังจากเริ่มเจอกระแสบอยคอตเมื่อตุลาคม 2566 / KFC ในมาเลเซีย พยายามปรับกลยุทธ์แบรนด์ใหม่ โดยแจกจ่ายใบปลิวและย้ำข้อมูลที่ว่า บริษัทนี้มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ยะโฮร์ คอร์เพอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลรัฐยะโฮร์ และปรับรูปลักษณ์เวบไซต์ให้มีความเป็นอิสลามมากขึ้นในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว พร้อมย้ำว่า บริษัทจ้างพนักงานกว่า 3 หมื่นคน จำนวนนี้เป็นมุสลิม 86%
ข้อมูลจากเวบไซต์ QSR ระบุว่า ในมาเลเซีย มีร้าน KFC กว่า 600 สาขา เท่ากับว่าปิดชั่วคราวแล้ว ประมาณ 18 % นอกจากนี้ QSR ยังเป็นเจ้าของร้านสาขาในสิงคโปร์ บรูไน และกัมพูชา ตลอดจนแบรนด์ พิซซ่า ฮัต ในมาเลเซียและสิงคโปร์
การปิดสาขา KFC ครั้งนี้ รัฐกลันตัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบมากที่สุด รวม 21 สาขา หรือเกือบ 80% จากทั้งหมด ตามด้วยรัฐยะโฮร์ ระงับบริการ 15 สาขา ส่วนรัฐสลังงอร์ ปิดชั่วคราว 11 สาขา จำนวนนี้ 10 สาขาตั้งอยู่ในเขตชาห์ อาลัม ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์
โมฮัด นาซารี อิสมาอิล ประธานขบวนการ “บอยคอต ถอนการลงทุน และคว่ำบาตร” หรือ BDS บอก สเตรทส์ ไทมส์ สื่อสิงคโปร์ว่า KFC ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายของ BDS แต่ชาวมาเลเซียจำนวนมาก มองว่า บริษัทฟาสต์ฟูดอเมริกัน เกี่ยวข้องกับอิสราเอลทางใดทางหนึ่ง รวมถึง KFC
ขบวนการ BDS มีเป้าหมาย ให้ทั่วโลก ยุติสนับสนุนการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล และกดดันให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ การณรงค์บอยคอตธุรกิจสหรัฐฯ ประเทศที่ให้การสนับสนุนอิสราเอลทำสงครามในกาซ่าอย่างแข็งขัน เริ่มเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว เดิม ภาคธุรกิจส่วนใหญ่คาดกันว่า น่าจะเป็นปรากฏการณ์ช่วงสั้น ๆ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ภาพปก qsrbrands