จ่อออกหมายจับเพิ่ม 6 ราย แก๊งตำรวจอุ้มรีดชาวจีน

จ่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 6 ราย ร่วมแก๊งตำรวจอุ้มรีด นทท.จีน รู้ตัวนางนกต่อแล้วจ่อขอศาลออกหมายจับ เร่งไล่ล่า “จ่าแจ๊ค” เจ้าหน้าที่ตำรวจ จร. สน.พญาไท ขู่เอาผิดคนช่วยหลบหนี พร้อมประสานตม. และ สถานทูต ตรวจสอบประวัติผู้เสียหาย หลังพบข้อมูลอาจเป็นแก๊งทุนจีนเทาที่เกี่ยวข้องพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย

จ่อออกหมายจับเพิ่ม 6 ราย แก๊งตำรวจอุ้มรีดชาวจีน – Top News รายงาน

วันนี้ ( 4 พ.ค.) พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร่วมประชุมติดตามเร่งรัดคดี แก๊งตำรวจและพลเรือนร่วมกันอุ้มรีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ สน.ดินแดง

โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ทางตำรวจได้มีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกราชการ 3 นาย พลเรือน 2 นาย และล่าสุดสามารถจับกุมได้แล้วทั้งหมด 4 ราย ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งราย คือจ่าสิบตำรวจวีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือ จ่าแจ๊ค สังกัดงานจราจร สน.พญาไท ยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ซึ่งได้ประสานต้นสังกัดและญาติ ไปตามภูมิลำเนาแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมย้ำว่าหากใครให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นให้ที่พักพิง หรือช่วยปกปิดข้อมูล ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา

โดยตำรวจยืนยันว่า จะทำการเร่งไล่ล่าผู้ต้องหารายนี้ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย ที่ถูกจับกุมได้ ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังภาคเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน ว่าทั้ง4รายที่ถูกจับกุมคือกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่จริง

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ จากการสอบสวนทราบว่า มีการแบ่งหน้าที่กันโดยมี ดาบบอส ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการ เป็นด่านสุดท้าย ที่ผู้ก่อเหตุพาผู้เสียหายมาพบ เพื่อให้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ พร้อมกับข่มขู่รีดเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหลักฐานในวันเกิดเหตุเป็นภาพ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโรงแรม แห่งหนึ่งภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ซึ่ง บันทึกภาพเหตุการณ์ในคืนวันที่ 25 เมษายน 2567 ช่วงเวลาประมาณ 20:34 น. – 20.42 น. ซึ่งเป็นเวลา ก่อนและขณะเกิดเหตุแก๊งตำรวจอุ้มรีดเงินชาวจีน เป็นภาพรถเบนซ์สีดำคันหนึ่ง จอดสังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งตรงข้ามของโรงแรม ซึ่งตรวจพบภายหลังว่า รถเบนซ์คันดังกล่าว มีอดีตดาบตำรวจบอส หรือ นายอรรถวุฒิ เป็นเจ้าของ

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนนายนภสินธ์ หรือนายบิ๊ก ได้รับการติดต่อจากจ่าแจ๊ค ให้นั่งรถมาเป็นเพื่อน น.ส.ลูกปลาซึ่งเป็นนางนกต่อในคดีนี้ และเข้ามาเปิดห้องพักเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหาย ขณะที่ นายธีรชัย หรือ นายฟาง ได้รับการติดต่อ จากจ่าแจ็ค ให้มาเป็นล่ามแปลภาษาเพื่อติดต่อกับผู้เสียหาย โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท ส่วนสิบตำรวจเอกภูวเดช หรือหมู่มิก และ จ่าแจ็ค ได้ยืมรถโดยอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหาก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีมโดยเจ้าตัวรับว่าร่วมอยู่ในทีม

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุอีก 6 ราย ที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งตอนนี้ ตามพยานหลักฐานรวมถึงการสอบปากคำ คนก่อเหตุที่ถูกจับ เบื้องต้นทราบข้อมูลชื่อเล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาล ออกหมายจับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนี้

สำหรับผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า ถูกคุมตัวขึ้นรถในวันเกิดเหตุเพียงแค่ 4 ราย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีผู้เสียหายหนึ่งรายพยายามวิ่งหนี โดยกลุ่มคนร้ายพยายามวิ่งติดตามแต่ก็ไม่ทัน ซึ่งเดิมทีตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ในขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากตำรวจทราบแล้วว่าผู้ที่ทำหน้าที่ชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ต้องหาก็คือ น.ส.ลูกปลา ที่เป็นคนนำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานในการขออนุมัติศาลออกหมายจับเช่นกัน

แก๊งตำรวจอุ้มรีดชาวจีน

ทั้งนี้ ในส่วนของเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายโอนเข้ามาให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่า ถูกแบ่งออกเป็น2ส่วน ส่วนแรกประมาณ 1.49 ล้านบาท เป็นของนายนภสินธุ์ 7 แสนบาท และจ่าแจ๊คอีก 7 แสนบาท โดยจ่าแจ็ค ได้มีการโอนไปให้ ดาบบอส 2.5 แสน และ หมู่มิก 1 แสนบาท คงค้างในบัญชีจ่าแจ๊ค 3.2 แสน ส่วนก้อนที่ 2 ประมาณ 8.9 แสนบาท ถูกตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ อายัดไว้ เนื่องจากเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดคดีลวงซื้อสินค้าออนไลน์ เงินจำนวนนี้จึงยังไม่ถูกถอนเงินออกมาได้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทำการเลือกลงมือกับกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนกลุ่มนี้ สันนิษฐานว่า กลุ่มชาวจีนกลุ่มนี้น่าจะทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะต้องการแลกเงินสดมาใช้จ่ายในประเทศไทย กลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจจึงเห็นสบช่อง จึงอุ้มไปเพื่อข่มขู่รีดเงินเมื่อผู้เสียหายเห็นว่า เป็นตำรวจจริงจึงยอมโอนเงินให้ ส่วนกลุ่มผู้เสียหายทำธุรกิจผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ ตำรวจได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานทูตฯ เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทางเข้ามาประเทศไทย และประวัติของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรถึงเข้ามาในประเทศไทยแล้ว

ออกหมายจับ อุ้มรีด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจ้าคณะอำเภอสั่งนิมนต์  “พระอาจารย์ชิน” พ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน หลังปลุกเสก “หมูเด้ง” ลูกศิษย์เศร้าพระอาจารย์เป็นพระสายปฏิบัติ
ผบ.ทร.ชื่นชมนักรบ 356 นาย เสียสละช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่เชียงราย
"ผบ.ทร" ตรวจเยี่ยม หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ยกระดับกำลังพล-เครื่องมือ ทุกมิติ ย้ำรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่
"เจ้าอาวาสวัดดัง" พิษณุโลก เครียดหนัก เจ้าภาพกฐินเทงาน ซ้ำจ้างลิเกคณะดังมาแสดง กลับไม่จ่ายเงิน
“ชูศักดิ์” เผยเพื่อไทยตั้งวงวาง 3 สถานการณ์เร่งแก้ รธน. ย้ำยังเป็นเรื่องที่อยู่ในเป้าหมาย
"บิ๊กเต่า" เผยกองปราบเร่งสอบปม "ทนายตั้ม" รีดเงินบอสพอล 7.5 ล้าน
Ripley's Believe It or Not! Pattaya เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ตัวที่ 9 THE LOST PYRAMID การผจญภัย ล่าสมบัติในพีระมิดที่สูญหาย
"ทนายเจ๊อ้อย" เผยเหตุสอบปากคำนานเ ชี้ตร.เก็บทุกประเด็น ลั่นไม่มียอมความ
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น