ข่าวที่น่าสนใจ
ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวนภัคฯ อายุ ๓๕ ปี ในความผิดฐาน “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีคำสั่งห้ามขาย (สินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น), ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตและประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้
๑.แบคเก็ท ๑๓ แผง ราคาประมาณ ๑,๙๕๐ บาท
๒.ยางเชน ๑๒ เส้น ราคาประมาณ ๖๐๐ บาท
๓.ยางโอลิง ๑๑๔ แท่ง ราคาประมาณ ๒,๒๘๐ บาท
๔.ท่อสี ๑๕ เส้น ราคาประมาณ ๗๕๐ บาท
๕.ลวดดัดฟันแบบม้วน จำนวน ๒ ม้วน ราคาประมาณ ๕๐๐ บาท
๖.ลวดดัดฟันแบบ เส้น จำนวน ๑ แพ็ค ราคาประมาณ ๒๕๐ บาท
๗. น้ำยาทำความสะอาดฟัน จำนวน ๒ หลอด ราคาประมาณ ๔๐๐ บาท
๘. กาวสำหรับติดแบ็คเก็ต จำนวน ๒ หลอด ราคาประมาณ ๗๐๐ บาท
๙. ที่ถ่าง ปาก ๑ อัน ราคาประมาณ ๕๐ บาท
๑๐. อุปกรณ์สำหรับใช้เกี่ยวยางดัดฟัน ราคาประมาณ ๑๘๐ บาท
๑๑. คีมสำหรับคีบอุปกรณ์หนึ่งอัน ราคาประมาณ ๒๐๐ บาท
๑๒. สำลีก้อนหนึ่งแพค ราคาประมาณ ๒๕ บาท
๑๓. ตัวอย่างสียางโอลิง ๑ แผง ราคาประมาณ ๒๐๐ บาท
๑๔. เตียงนอนสำหรับจัดฟัน ราคาประมาณ ๕๐๐ บาท
รวมทั้งสิ้น ๑๔ รายการ รวมมูลค่าประมาณ ๘,๕๘๕ บาท
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพัก หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ ๑ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะเเสว่ามีผู้ลักลอบนำสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นมาจำหน่ายและให้บริการให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยมีการโฆษณาขายที่สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค ชื่อบัญชี “จัดฟันแฟชั่นพิษณุโลก ปลอดภัย ติดแน่น เหมือนจัดจริง” URL : https://www.facebook.com/judfunphitsanulok
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีผู้นำสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นมาจำหน่ายและให้บริการจริงในเพจดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนให้สายลับติดต่อเข้ารับบริการ โดยตกลงทำการจัดฟันแฟชั่นในราคา ๑,๐๐๐ – ๑,๕๐๐ บาท และได้ตกลงโอนเงินมัดจำไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นางสาวนภัคฯ โดยตกลงนัดหมายให้เข้ารับบริการจัดฟันแฟชั่น ณ บ้านพัก หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ซึ่งต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัด นางสาวนภัคฯ ได้มีการทำการแนะนำการบริการจัดฟันแฟชั่น โดยมีอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น ทั้งลวด ยางวงที่นำไปคล้องหรือผูกติดไว้ในบริเวณช่องปากหรือบนฟัน ซึ่งเป็นสินค้าที่ห้ามขายตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๑/๒๕๖๑ และเมื่อนางสาวนภัคฯ เริ่มทำการจัดฟันแฟชั่นให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้ามายังสถานที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนางสาวนภัคฯ ยอมรับว่าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นดังกล่าวเป็นของตนเองจริง
โดยมีไว้จำหน่ายและให้บริการกับเป็นประชาชนทั่วไป โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อและเข้ารับบริการได้ผ่านการโฆษณาขายที่สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค ชื่อบัญชี “จัดฟันแฟชั่นพิษณุโลก ปลอดภัย ติดแน่น เหมือนจัดจริง”
โดยนางสาวนภัคฯ รับจัดฟันแฟชั่น โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม และนางสาวนภัคฯ ได้ใช้สถานที่เกิดเหตุเปิดเป็นสถานที่รับจัดฟันแฟชั่นให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจติดต่อใช้บริการ โดยมิได้มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้นางสาวนภัคฯ ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีคำสั่งห้ามขาย (สินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่น), ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๖ ,๕๖ แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๒๙/๙,๕๖/๔ คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๑/๒๕๖๑ ลง ๓๐ ม.ค.๒๕๖๑ ประกอบ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๓๗ , พ.ร.บ.สถานพยาบาล ๒๕๔๑ มาตรา ๑๖ , ๒๔ และ พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๒๘ จากนั้นจึงนำตัวนางสาวนภัคฯ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ช่องทางติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน สว.กก.1 บก.ปคบ. โทร.093-452 4941
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
