“นักกีฬาพิการทีมชาติ” แฉชัด นายทุนเขมือบโควตาหวย หลักฐานโผล่สมาคมฯปล่อยโม่งสวมสิทธิ จี้สนง.สลากฯลุยสอบลอตเตอรี่หายไปไหน

"นักกีฬาพิการทีมชาติ" แฉชัด นายทุนเขมือบโควตาหวย หลักฐานโผล่สมาคมฯปล่อยโม่งสวมสิทธิ จี้สนง.สลากฯลุยสอบลอตเตอรี่หายไปไหน

“นักกีฬาพิการทีมชาติ” แฉชัด นายทุนเขมือบโควตาหวย หลักฐานโผล่สมาคมฯปล่อยโม่งสวมสิทธิ จี้สนง.สลากฯลุยสอบลอตเตอรี่หายไปไหน  Top News รายงาน

 

โควตาหวย

ข่าวที่น่าสนใจ

ความคืบหน้ากรณี Top News ตรวจสอบปัญหาการจัดสรรโควตาสลากให้สมาชิกของสมาคมคนพิการบางแห่งอาจมีความไม่เป็นธรรม ล่าสุดทีมข่าว Top News ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายศุภชัย สงพินิจ อายุ 39 ปี นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ผู้ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย มากว่า 20 ปี เคยได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ เฟสปิกเกมส์ และการแข่งขันนักกีฬาคนพิการอีกหลายรายการ

 

โดยศุภชัย ที่ตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด บอกว่า ตนเองเป็นนักกีฬาวิ่งคนพิการทีมชาติ มีเงินเดือนที่สนับสนุนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทยหรือกกท.ที่หลังหักค่าใช้จ่าย เหลือเดือนละ 9,000 บาท ส่วนเบี้ยเลี้ยงหรือสวัสดิการอื่นๆจะได้ก็ต่อเมื่อมี รายการลงเเข่ง แต่ถ้าไม่มีรายการลงแข่งก็จะได้เพียงเงินเดือนอย่างเดียว จึงต้องหาอาชีพเสริมนั่น ก็คือการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งตนเองก็เดินเร่ขาย โดยก่อนหน้านี้ตนเองเป็นสมาชิกชมรมกีฬาคนพิการประเภทลู่และลาน ซึ่งชมรมดังกล่าว ก็เป็นสมาชิกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยด้วย โดยสมาคมนี้ได้เปิดรับสมาชิกและไปขอโควตากับสำนักงานสลาก เพื่อขอสลากกินแบ่งรัฐบาลมาให้สมาชิกนำไปขายต่อด้วย แต่สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ไม่ยอมให้ตนเองเป็นสมาชิก จึงทำให้ตนเองเสียสิทธิ์ได้สลากฯไปขายต่อในฐานะผู้ค้ารายย่อย ตนเองจึงต้องไปสมัครเป็นสมาชิกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะได้โควตารับสลากไปขายต่อ โดยตนเองได้สลากไปขายจำนวน 4 เล่ม ประมาณ 28,000 บาท จากนี้จะเอาไปขายที่จังหวัดสุโขทัยและที่อื่น ๆ

 

 

 

ศุภชัย เล่าต่อว่า ตนเองสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย จึงไปสอบถามเจ้าหน้าที่สมาคม แต่กลับได้รับคำตอบว่า นักกีฬาทีมชาติควรเก็บตัวฝึกซ้อม ไม่ควรไปขายลอตเตอรี่ เพราะกกท.มีเงินเดือนให้อยู่แล้ว เมื่อตนเองขายสลากฯ สมาคมฯจึงต้องตัดสิทธิ์ แต่ความเป็นจริงนักกีฬาคนพิการทีมชาติสามารถหาอาชีพเสริมได้ และอาชีพขายสลากก็เป็นอาชีพที่เหมาะสมที่สุด

 

 

 

นายศุภชัย ยังเปิดเผยหลักฐานเอกสารกับทีมข่าว Top News จำนวน 2 ชิ้น คือ เอกสารแสดงรายชื่อสมาชิกสมาคม ที่มีทั้งชื่อบุคคลและชื่อชมรมนักกีฬาคนพิการ รายชื่อสมาชิกนี้จะได้โควตาสลากไปขายต่อ ส่วนหลักฐานอีกชิ้น คือเอกสารแสดงรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับสลากไปขาย บางคนได้ 4-5 เล่ม แต่บางคนกลับได้สูงถึง 50 เล่ม รวมกว่า 5,000 ใบ ซึ่งถือว่าเกินกำลัง ความจริงผู้ค้ารายย่อย ไม่สามารถขายสลากฯ ได้มากภายในเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์ ที่น่าสนใจคือรายชื่อในสมาคมกีฬาคนตาบอดฯกับรายชื่อผู้รับสลากฯไม่ตรงกัน ตนเองจึงสงสัยว่า สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยไปเอาชื่อบุคคลใดมาสวมรับสลากไปขาย และสลากฯฉบับจริงไปอยู่ที่ไหน

 

 

 

 

 

นอกจากนี้นายศุภชัย ยังบอกอีกว่า ยังมีอีกหลายสมาคมคนพิการ ที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน คือ รายชื่อสมาชิกกับผู้ที่ไปรับสลากเป็นคนละคนกัน บางสมาคมมีการจัดเก็บค่าสมาชิก สมาคมควรจะเอาเงินที่จัดเก็บค่าสมาชิก ไปซื้อสลากฯ แล้วมาแจกจ่ายให้กับสมาชิก แต่บางสมาคมกับอ้างว่ามีนายทุน เป็นผู้จ่ายค่าสลากฯตนเองจึงสงสัยว่า ทำไมถึงไม่เอาเงินจากการเก็บค่าสมาชิก ไปซื้อสลากฯ จึงอยากให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบสมาคมคนพิการต่างๆ ที่มีสมาชิก แต่ รายชื่อผู้รับโควตาสลากไปจำหน่ายกลับไม่ตรงกัน และสลากฉบับจริงไปตกอยู่ที่มือใคร อยากให้ตรวจสอบ เพราะผู้ค้ารายย่อยที่เป็นผู้พิการตัวจริงอย่างตนเอง ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีสลากไปเดินเร่ขาย

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2567 มีการรายงานบรรยากาศ ที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซอยบุญอยู่ แถวสามเหลี่ยมดินแดง ข้างสำนักงาน ปปส. ได้เปิดให้บรรดาสมาชิกที่เป็นผู้พิการตาบอด เดินทางมารับสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขาย งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคมที่จะถึงนี้

 

 

สำหรับผู้พิการที่มารับสลากฯไปขายทั้งหมดเป็นสมาชิกของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยที่มีรายชื่อและมีการลงทะเบียนขอรับสลากไว้ก่อนแล้ว

โดยคณะกรรมการของสมาคมฯจะเป็นผู้พิจารณาว่าสมาชิกควรได้สลากไปขายคนละกี่เล่ม

 

สำหรับขั้นตอนการรับสลากไปขาย เมื่อผู้พิการที่มีรายชื่อเป็นสมาชิกสมาคมเดินทางมาถึงก็ต้องไปรับบัตรคิว จากนั้นตรวจสอบรายชื่อสมาชิก และจ่ายเงินค่าสลาก ในราคาเล่มละ 7,040 บาท ซึ่งทุกขั้นตอนมีการแบ่งพื้นที่จัดสรรอย่างเป็นระบบ

 

 

 

 

 

 

ผู้ค้าสลากบอกว่า ใน 1 เดือนจะเดินทางมารับสลากไปขาย 2 ครั้ง คือก่อนวันที่ 1 และก่อนวันที่ 16 บางคนก็เดินทางด้วยตัวเองแต่อาจลำบากหน่อย บางคนมีญาติที่ร่างกายปกติมาส่ง คนไหนที่มาคนเดียวก็อาจจะดูวุ่นวาย พูดจาเสียงดังแต่ก็เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า ตัวเองตาไม่ดีและมองไม่เห็น

 

ส่วนที่สมาคมฯ ก็มีอาหารน้ำดื่มเครื่องดื่มไว้คอยบริการให้กับผู้พิการ นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิการทั้งหมดที่เดินทางมารับสลากด้วยตัวเอง เป็นผู้ค้ารายย่อยที่จะไปเดินเร่ขายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น