“แม่น้องไนซ์” เย้ยกลับ “ทนายอนันต์ชัย” ร้อนตัว ปมคลิปเสียงขู่ ซัดอย่ามาเรียกลัทธิ ให้ใช้กฎหมาย ไม่ใช่ปลุกระดม

แม่ของเจ้าลัทธิเชื่อมจิต พูดเป็นตุเป็นตะว่า มีการข่มขู่ มีคลิปเสียงด้วย ทำให้ผมได้รับความเสียหาย !คำถาม #ประชาชนเชื่อใครครับ ? วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น.ที่กองปราบฯ แม่เจ้าลัทธิเชื่อมจิต กับพวก จะได้รับเกียรติไปที่กองปราบฯ แน่นอน อย่าลืมส่งหลักฐานการข่มขู่ให้กองปราบปรามฯ ด้วยนะ !

ก่อนจะไลฟ์พร้อมกับระบุแคปชั้นว่า “ทนายอนันต์ชัย” ชี้แจงกรณีถูกแม่เจ้าของลัทธิเชื่อมจิต กล่าวหาว่า ข่มขู่อาจาร์ย์ รัก คำราม และมีคลิปเสียง การข่มขู่ ในวันที่ 30 เมษายน 2567 ก่อนออกรายการเคลียร์ชัด ๆ

โดยในไลฟ์ ดังกล่าว “ทนายอนันต์ชัย” ได้ไลฟ์คู่กับ “ทนาย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา” ชี้แจงประเด็น ถูกกล่าวหาว่า ข่มขู่ อ.รักคำราม และอ้างว่ามีคลิปเสียง โดยทนายอนันต์ชัยเล่าว่า เหตุการณ์ในวันนั้นคือในห้องรับรองก่อนอัดรายการ เคลียร์ชัด ๆ ซึ่งมีทางด้านของแขกรับเชิญทุกคนรวมไปถึงมีทีมงานหลายคนที่นั่งอยู่ในห้องดังกล่าว ซึ่งมีการพูดคุยกันก่อนออกรายการนิดหน่อย

โดยทนายอนันต์ชัย ได้คุยกับ อ.รักคำราม ว่า คุณโชคดีมากที่เจอผมวันนี้ เพราะ อ.รัก เป็นคนหนึ่งที่ผมจะแจ้งความ ในวันที่ 13 พ.ค. นี้ที่กองปราบ ได้ยินกันหมด อ.รัก แกก็ตกใจ และบอกเหตุผมที่เลิกแล้ว และยอมออกมาเพราะเรื่องที่ดิน มันไม่โปร่งใส มีปัญหาเรื่องการซื้อขายที่ดิน เวลามีคนมาถามแกก็ไม่สบายใจ ผมเลยบอกว่าดีแล้วล่ะ ยันเป็นการคุยกันแบบปกติ โดยทนายอนันต์ชัย ถาม อ.รัก ว่าจะเป็นผู้ต้องหา หรือจะเป็นพยาน เราไม่ได้บังคับ มนรายการผมก็บอก คือเราให้เกียรติแก ผมเป็นคนพูดเสียงดังปกติ ไม่ได้ข่มขู่

พอออกรายการเสร็จ ทางแม่ของเจ้าลัทธิเชื่อมจิต บอกว่ามีการอัดคลิปเสียง ข่มขู่ อ.รัก กล่าวหาว่าใส่ร้ายน้องเจ้าของลัทธิ และจะแถลงข่าว พูดนู่นพูดนี่ หลังจากนั้นอาจารย์รัก โทรมาหาผม จึงได้ถามไปตรงๆว่าอัดเสียงหรอ ซึ่งอาจารย์รักยืนยันว่าไม่ได้อัด ด้านแฟนของอาจารย์รักก็ยืนยันว่าไม่ได้อัด เพราะถ้าอัดเสียมารยาทมาก คุณไม่ได้ขออนุญาตผม

แต่อาจารย์รัก ได้เล่าให้ฟังว่า หลังออกรายการแล้ว เมื่อวันที่ 30 มีแม่เจ้าลัทธิโทรไปหา แต่ไม่ได้รับสาย แต่ทนายคนหนึ่งก็โทรไปหาอีก แล้วไปบอกว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น ว่าที่ดินไม่โปร่งใส ต้องแก้ข่าวไม่งั้นจะดำเนินคดี อาจารย์รักก็เลยกลัว พอวันรุ่งขึ้นที่มีการออกรายการอีกรอบหนึ่ง ก็เลยแก้ตัวเรื่องนี้เลยว่าไม่ได้พูด ซึ่งใช้ดังกล่าวมี ดร.อดิเทพ ,จาตุรงค์,อ.รัก แกก็เลยปฏิเสธตามที่เป็นข่าว

ทนายอนันต์ชัยได้กล่าวต่อว่า ผมเป็นคนพูดเสียงดังแล้วเป็นคนให้โอกาสคนอย่างเช่นกรณี ที่เราจะแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 26 พอรัฐมนตรีท่านจะมาตรวจสอบเรื่องนี้เราก็ให้โอกาสก่อน อย่างเช่นในกรณีที่แจ้งความดำเนินคดีกับลัทธิเชื่อมจิตวันที่ 13 พฤษภา เราก็ให้โอกาสอีก กรออกรายการกับคุณต้นอ้อก็คุยกันว่าเราจะให้โอกาสเขาไหม ซึ่งคุณต้นก็เห็นด้วย เราก็เลยโพสต์ไป กลับกลายเป็นว่าแม่ของลัทธิ มาต่อว่าต่อขานว่าคุณเป็นใครไม่ต้องมาขู่

ย้ำเราเป็นคนให้โอกาส อย่างกรณีของอาจารย์รัก ต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์โดยชอบทางกฎหมายที่จะกล่าวโทษ อยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนว่าผมเป็นทนายมา 38 จะ 39 ปี ผมไม่เคยข่มขู่ใคร ผมยื่นความชอบธรรมให้กับอาจารย์รัก ให้แกมีทางลง

ซึ่งจริง ๆ แล้วผมไม่จำเป็นต้องเอาอาจารย์รักเลย เพราะพยานหลักฐานพร้อมหมดแล้ว จัดมา5ครั้ง ครั้งละเท่าไหร่ เป็นจำนวนกี่คน แล้วเอาเด็กมาโฆษณา ซึ่งเขาห้ามตามมาตรา 27 เป็นการแสวงหาผล เราไม่จำเป็นต้องเอาแกด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่พยานที่สำคัญสำหรับเรา

อยากจะกราบเรียนแม่ของเจ้าลัทธิเชื่อมจิต อาจารย์รักผมไม่ได้สนใจเลยที่จะมาเป็นพยานให้ผม ไม่ได้มีความสำคัญ แต่ให้โอกาสให้อาจารย์รักได้มีทางลง แต่การที่อาจารย์รักไปคุยกับทนายคนหนึ่ง กล่าวหาว่าเราข่มขู่มันเรื่องใหญ่ ก็เลยอยากชี้แจง

อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่อง “ทนายอนันต์ชัย” ก็ยังไม่จบ “แม่นก” ยังได้มีการซัดต่ออีกว่า “ทนายอนันต์ชัย” เป็นนักกฎหมายแต่ไม่ใช้กฎหมาย ใช้การปลุกระดมให้คนโน้นคนนี้ออกมาแทน และมีการโน้มน้าวจิตใจด้วย ก่อนจะซัดว่า พวกตนเป็นคนพุทธ นับถือศาสนาพุทธ อย่ามาใช้คำว่าลัทธิกับเรา