ฮ่องกงจัดประชุมสุดยอดเฟ้นหาอัจฉริยะทั่วโลกเป็นครั้งแรก เพื่อดึงดูดให้มาทำงานในประเทศ ชูจุดแข็งศูนย์กลางระดับโลกและเป็นประตูเชื่อมต่อกับจีน
เมื่อวันอังคาร ฮ่องกงจัดประชุม Global Talent Summit เป็นครั้งแรก เพื่อเฟ้นหาอัจฉริยะทั่วโลกมาทำงานในฮ่องกง โดยในวันเปิดงานมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 3 พันคน และผู้จัดงานคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 7 พันคนในการประชุมสุดยอด 2 วัน ซึ่งจะจัดขึ้นควบคู่ไปกับงาน Career Connect Expo มหกรรมจัดหางาน ซึ่งมีบริษัทเข้าร่วมออกบูธเกือบร้อยราย
จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวในระหว่างการกล่าวเปิดการประชุม ชูจุดแข็ง เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความสามารถให้มาทำงาน ด้วยโดยกล่าวว่า ฮ่องกงเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลก ที่มีจุดแข็ง 2 เรื่องเข้าด้วยกัน คือ ความเป็นศูนย์กลางระดับโลก และเป็นประตูเชื่อมสู่จีน โดยฮ่องกงมีระบบเสรี กฎหมายที่มีมาตรฐานและตลาดที่เป็นสากล ซึ่งจุดแข็งนี้เป็นรากฐานในการประสบความสำเร็จ
รวมถึงนโยบายที่มีข้อจำกัดด้านวีซ่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยทางการได้ออกมาตรการยกเว้นต่างๆ เช่น การยกเว้นอากรแสตมป์ และอนุญาตให้ผู้มีความสามารถเข้าสู่ฮ่องกงได้ แม้ยังไม่มีใบตอบรับเข้าทำงาน ซึ่งลีกล่าวว่า โครงการประสบความสำเร็จอย่างดี ณ สิ้นเดือนเมษายน มีชาวต่างชาติที่ยื่นใบสมัครเกือบ 1 แสน 8 หมื่นคน ได้รับการอนุมัติแล้ว นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการในปลายปี 2565 และในจำนวนนี้ มีผู้สมัครมากกว่า 1 แสน 2 หมื่นคน ที่เดินทางมาถึงฮ่องกงเรียบร้อย
เจ้าหน้าที่จากบริษัทจัดหางาน ลีปปิ้ง (Leapin) ให้ข้อมูลว่า มีข้อมูลที่น่าประหลาดใจคือ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ผู้ที่มีความสามารถจากเมืองชั้นนำของจีน ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้หรือปักกิ่ง กำลังสมัครมาทำงานในฮ่องกงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางการก็ตอบรับด้วยการขยายเวลาให้ ชาวจีนที่ขอวีซ่าเดินทางเพื่อธุรกิจไปยังฮ่องกง จะได้รับอนุญาตให้อยู่ได้นานถึง 14 วัน เพิ่มขึ้นจาก 7 วันก่อน ซึ่งมาตรการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความได้เปรียบของหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตุว่า จำนวนผู้สมัครงานภาคการเงินน้อยกว่าในอดีต เนื่องจากตลาดการเงินยังมีความไม่แน่นอน แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า เมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น ตำแหน่งด้านการเงิน จะกลับมาเป็นที่ต้องการอย่างมากอีกครั้ง