BBC และ AFP รายงานว่าเนทันยาฮูออกมาประกาศกร้าวเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 9 พค.) ว่า “ถ้าจำเป็น อิสราเอลก็พร้อมที่จะลุยเดี่ยวกาซา และถ้าจำเป็นอิสราเอลก็พร้อมต่อสู้ด้วยมือเปล่า”
การออกมาประกาศของผู้นำอิสราเอลมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐให้สัมภาษณ์ CNN ขู่จะหยุดส่งอาวุธ รวมทั้งกระสุนปืนใหญ่ให้อิสราเอลถ้าอิสราเอลโจมตีราฟาห์อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากก่อนหน้านี้ได้สั่งระงับการส่งระเบิดสองล็อตใหญ่ให้อิสราเอลมาแล้ว เพราะกล้วจะถูกนำไปใช้ที่เมืองราฟาห์ที่มีพลเมืองอยู่หนาแน่นกว่า 1 ล้านคน
อย่างไรก็ตามเนทันยาฮูไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน พร้อมอ้างถึงสงครามประกาศเอกราชในปี 2491 หรือ 76 ปีที่แล้วที่อิสราเอลต้องทำสงครามตามลำพัง กับกลุ่มชาติอาหรับ ซึ่งมีทั้งอิยิปต์, จอร์แดน, อิรัก, อิหร่าน, ซีเรียและเลบานอน แต่อิสราเอลก็เอาชนะจนได้ทั้งๆที่ไม่มีอาวุธจำนวนมาก เพราะถูกคว่ำบาตรอยู่ เนทันยาฮูกล่าวว่าเพราะกำลังใจที่แข็งกล้าและความสามัคคีในชาติทำให้อิสราเอลได้รับชัยชนะ
เนทันยาฮูกล่าวว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน หากไบเดนหยุดส่งอาวุธให้จริงๆ อิสราเอลก็จะใช้จิตใจที่แข็งแกร่งและพรจากพระผู้เป็นเจ้าเอาชนะได้อีกครั้ง
ขณะที่นายโยอาฟ แกแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลก็ออกแถลงการณ์เช่นกันโดยส่งข้อความถึงศัตรูและพันธมิตรประกาศว่าอิสราเอลจะต้องเดินหน้าให้ถึงเป้าหมาย ไม่มีใครหยุดยั้งอิสราเอลได้
แถลงการณ์ของอิสราเอลมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากยูเอ็นรายงานว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในราฟาห์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 8 หมื่นคนต้องอพยพหนีตายออกจากราฟาห์ ท่ามกลางเสียงระเบิดและรถถัง นอกจากนี้ก็เตือนว่าอาหารและเชื้อเพลิงในกาซาก็จะหมดลงในไม่ช้า หลังอิสราเอลปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ แม้จะกลับมาเปิดด่านเคเร็ม ชาลอม แต่ก็อันตรายเกินกว่าที่อาสาสมัครและรถบรรทุกจะฝ่าไปถึงที่นั่น
แม้อิสราเอลบอกว่าจะจำกัดปฏิบัติการสู้รบภาคพื้นดินในวงจำกัดเพื่อไล่ล่าหาสมาชิกฮามาสที่เหลืออยู่ในราฟาห์ แต่อิสราเอลก็ไม่รับปากว่าจะไม่โจมตีอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ไบเดนถึงต้องออกมาขู่ ไบเดนยังบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าการที่อิสราเอลส่งทหารและรถถังเข้าสู่ราฟาห์จะช่วยกวาดล้างถอนโคนฮามาสได้จริง