นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 97.0 มองการชุมนุมเริ่มไม่มีความชัดเจน และไม่เห็นมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ร้อยละ 96.1 มีกลุ่มการเมืองเชื่อมโยงแกนนำ รวมถึงร้อย 97.1 ต้องการให้ตำรวจใช้กฎหมายจัดการเด็ดขาด
ดังนั้นขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศด้วยว่าไม่สนับสนุน หรือเอาด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ตนเองยังเห็นด้วยที่จะต้องใช้กฎหมายเข้าไปจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าการชุมนุมที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มใดก็ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย มีการใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ ผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ โรคติดต่อ
“ ขอกลุ่มม็อบนึกถึงประชาชนที่เดือดร้อนจากการเคลื่อนไหวด้วย อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว โดยเฉพาะม็อบของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่กำลังจะเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ตนเองมองว่าหากไม่มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมแล้วก็ไม่ควรที่จะนัดเคลื่อนไหวอีก และจะต้องยอมรับว่าประชาชนเขารู้แล้วว่าม็อบของนายณัฐวุฒิและนายสมบัติเป็นของปลอม ไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่หลอกประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเพื่อหวังโบนัสกับคนแดนไกลมากกว่า
“ขอให้ฟังเสียงประชาชน ขอให้เข้าใจความเดือดร้อนผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากการชุมนุม การฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง การก่อความวุ่นวายป่วนเมือง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และนี่คือเสียงเรียกร้องจากประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการอยากให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับคนที่สนับสนุนและอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมือง รวมถึงแกนนำม็อบป่วนเมืองทั้งหลาย เอาคนพวกนี้มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้”