BBC, AFP และอัลจาซีร่ารายงานว่าอิสราเอลได้โปรยใบปลิวและส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้( เสาร์ที่ 11 พค.) เตือนให้ชาวปาเลสไตน์ในราฟาห์ตะวันออกอพยพเพิ่มอีกหลายหมื่นคน หลังจากสั่งอพยพไปแล้วราว 1 แสนคนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคำสั่งอพยพครั้งล่าสุดระบุให้ไปย้ายไปยังเขตอัล-มาวาซี ซึ่งเป็นพื้นที่แคบๆอยู่ติดชายฝั่งทะเล ทางใต้ของเมืองข่านยูนิส
คำสั่งอพยพครั้งล่าสุดมีขึ้นในขณะที่กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือ IDF ยกระดับการโจมตีทางอากาศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และหลังจากที่ IDF เผยว่าทหารภาคพื้นดินได้มีการปะทะและเผชิญหน้ากับนักรบฮามาสหลายครั้งในราฟาห์ นอกจากนี้ยังอ้างว่าพบอุโมงค์ใต้ดินหลายแห่งในราฟาห์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญานว่าอิสราเอลกำลังเตรียมจะเปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ในราฟาห์เพื่อถอนรากถอนโคนฮามาสให้ได้
ขณะเดียวกันอิสราเอลก็ได้สั่งอพยพชาวปาเลสไตน์ที่เมืองจาบาลิย่า ทางเหนือของฉนวนกาซาและพื้นที่โดยรอบ โดยบอกให้ไปอยู่ในที่หลบภัยทางตะวันตกของกาซาซิตี้ เนื่องจากกลุ่มฮามาสบางส่วนได้กลับมารวมตัวที่จาบาลิย่าอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่าอิสราเอลกำลังจะเปิดปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในพื้นที่ทางเหนือของกาซาอีกระลอก หลังออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
การยกระดับปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในราฟาห์ของอิสราเอลได้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์และประณามอย่างกว้างขวาง รวมทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐที่ขู่จะระงับการส่งอาวุธให้อิสราเอล ถ้าอิสราเอลโจมตีราฟาห์อย่างเต็มรูปแบบ และก่อนหน้านี้ก็ชลอการส่งระเบิด 2 ล็อตใหญ่เพราะกลัวจะใช้ถล่มราฟาห์ แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูออกมาตอบโต้ทันทีว่าอิสราเอลจะลุยเดี่ยวกาซา ไม่ว่าสหรัฐจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนก็ตาม
ขณะที่องค์กรบรรเทาทุกข์ต่างๆต่างออกมาเตือนและแสดงความวิตกชาวปาเลสไตน์ไมมีที่จะให้ไปแล้ว โรงพยาบาลทุกแห่งยุติการให้บริการทั้งหมด อาหารก็มีจำกัดเนื่องจากจุดผ่านแดนปิด รถบรรทุกไม่สามารถขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปได้ และสภาพที่ค่ายอพยพอัล-มาซาวีก็แออัด ไม่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอะไรเลย ห้องน้ำห้องส้วมก็ไม่มี น้ำประปาก็ไม่มี