ระเบิดศึก "กัญชา" ภาค2 "ค่ายเสื้อแดง" ชิงสมรภูมิอีสานจาก "ค่ายเสื้อน้ำเงิน" เข้าทาง "ค่ายเสื้อส้ม" นั่งบนภูดูเสือกัดกัน
ข่าวที่น่าสนใจ
ระเบิดศึก “กัญชา” ภาค2 “พท.” ชิงสมรภูมิอีสานจาก “ภท.”
ต่างกันเพียง “นายใหญ่เพื่อไทย” ยังกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าพูดเต็มปากว่า พรรคตัวเองเป็น “ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่” ผิดกับ “ครูใหญ่เนวิน” ประกาศลั่นปฐพีว่า “ภูมิใจไทย” หัวใจสีน้ำเงินเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ชัดเจน ดังนั้น “ภูมิใจไทย” พรรคค่ายเสื้อน้ำเงินถือเป็นคู่ต่อกรตัวฉกาจที่สุดในสมรภูมิรบภาคอีสาน เพราะมีเพียง “ภูมิใจไทย” เพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่เป็นคู่ปรับที่สูสี
สส.บ้านใหญ่ค่ายเสื้อแดงหลายจังหวัด ถึงกับกระอักเลือดที่ถูก “ค่ายเสื้อน้ำเงิน” ชิงเข็มขัดแชมป์ไปต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานมีสส.มากที่สุดในประเทศ 133 คน “สนามปราบเซียน” ที่แม้แต่ “ก้าวไกล” เก่งนักเก่งหนาเรื่องปั่นกระแสทางโซเซียลเชื่อมจิตให้หลงกาพรรคส้มได้ สส.มาแค่ 7 คน ห่างชั้น “พรรคนายใหญ่” และ พรรคบ้านใหญ่ “ครูเนวิน” หลายขุม ขึงพืดรายพรรคที่ได้สส.ในภาคอีสาน ดังนี้ เพื่อไทย 73 คน , ภูมิใจไทย 35 คน, พลังประชารัฐ 7 คน , ก้าวไกล 7 คน, ไทยสร้างไทย 5 คน , เพื่อไทรวมพลัง 2 คน, ประชาธิปัตย์ 2 คน ปิดท้าย ชาติไทยพัฒนา 1 คน
คอการเมืองจึงมองไปในทิศทางเดียวกันเรื่องที่ “เพื่อไทย” ระเบิดศึก “กัญชา” ภาค 2 โดยมี “สมศักดิ์ เทพสุทิน” นั่งเป็นเจ้ากระทรวงสาธารณสุข ออกรบแทนนายใหญ่ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันกล้าพลีชีพดับเครื่องชน “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีควบกระทรวงมหาดไทย หมายที่จะบอนไซ “ภูมิใจไทย” ดับบารมี “ครูใหญ่เนวิน” ไม่ให้แผ่อิทธิพลในภาคอีสานได้เต็มกำลัง หากฆ่าตัดตอน “กัญชา” ไปเป็นยาเสพติด เพราะด้วยพลัง “กัญชา” นี่แหละที่ทำให้ “ภูมิใจไทย” เติบโต
ต้องยอมรับว่า “ภูมิใจไทย” เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จาก สส.51 คนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เพิ่มจำนวนเป็น 71 คนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการชูนโยบายเรือธง “กัญชา”
แต่ด้วยไฟท์บังคับการฟอร์มรัฐบาล “แดง-ส้ม” แท้งคลอด ประจวบเหมาะกับ “นายใหญ่” ต้องการเลิกเร่ร่อนพเนจรในต่างแดน จึงเปิดดีลกลับบ้านนำไปสู่การฟอร์มรัฐบาลสลายขั้ว จากเคยถูกคนเสื้อแดงตราหน้าว่าเป็น “คนทรยศนายใหญ่” เปลี่ยนไปเป็นมิตร และ พักรบ เทียบเชิญ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ควง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” และ “ไชยชนก” ลูกชายสุดเลิฟของ “ครูใหญ่เนวิน” ไปดื่ม “มิ้นต์ช็อก” ชนแก้วฉลองชัยจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วสำเร็จ
เข้าทาง “ค่ายเสื้อส้ม” นั่งบนภูดูเสือกัดกัน
หลังจากนั้นเปิดทางโล่ง “ภูมิใจไทย” ได้โควตารัฐมนตรีตามที่ต้องการ ยกเว้น “กระทรวงสาธารณสุข” เพียงเก้าอี้เดียวที่ “เพื่อไทย” หวงก้างไม่ยอมปล่อยให้ “อนุทิน” นั่งจนรากงอก ยอมกัดฟันประเคนเก้าอี้ “กระทรวงมหาดไทย” ที่รู้กันในทางการเมืองว่า สามารถใช้ขุมกำลัง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” และ กำลังพลฝ่ายปกครองเอื้อประโยชน์ทางการเมืองได้ไม่ยาก แต่ “เพื่อไทย” ไม่คิดเสียดายแม้แต่น้อยเพื่อให้ได้มาซึ่ง “กระทรวงสาธารณสุข” มาไว้ครอบครองหวังฆ่าตัดตอน “กัญชา” บอนไซ “ภูมิใจไทย” ใช่หรือไม่? คงต้องรอดูกันต่อไปเพราะระฆังยกที่ 1 เพิ่งเริ่มต้นศึกนี้กินเวลาอีกนาน
แต่ทั้งพรรค “ค่ายเสื้อน้ำเงิน” และ “ค่ายเสื้อแดง” ที่ระเบิดศึกการเมืองเรื่องกัญชา ภาค 2 ณ ขณะนี้ ทั้งคู่ต่างต้องเผชิญคู่แข่งคนเดียวกันทั้งในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น หรือ ระดับประเทศ นั้นคือ “ก้าวไกล” พรรคค่ายเสื้อส้ม ที่แม้ว่าหลายจังหวัดที่ “ภูมิใจไทย” และ “เพื่อไทย” กำชัยชนะได้ สส.เขตมาได้เกือบทั้งจังหวัด แต่เมื่อดูคะแนน สส.บัญชีรายชื่อกลับถูกก้าวไกลทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น
ยิ่ง “ค่ายเสื้อส้ม” วางแผนขยายฐานเสียงใน “อีสาน” และ “เหนือ” ผ่านการจ้องยึด “สมรภูมิการเมืองท้องถิ่น” ในทุกระดับตั้งแต่เลือกตั้งผู้ว่า กทม.ยันกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เว้น ล่าสุดล็อคเป้าชิงเก้าอี้การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกอบจ.ที่กำลังระเบิดศึกอยู่ในขณะนี้ เป้าหมายของพรรคส้ม ต้องการล้มการเมืองบ้านใหญ่ให้จงได้
ดังนั้นการที่ “ค่ายเสื้อน้ำเงิน” กับ “ค่ายเสื้อแดง” เปิดศึกฆ่าตัดตอน “กัญชา” ภาค 2 จะเข้าทาง “ค่ายเสื้อส้ม” ตามสุภาษิตที่ว่า นั่งบนภูดูเสือกัดกัน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง