ไบเดนยอมรับคำท้าจากทรัมป์แล้ว ทั้งสองตอบรับคำเชิญจาก CNN และ NBC ร่วมดีเบท 2 ครั้ง-ดีเบทครั้งแรกจะจัดขึ้นในสตูดิโอที่ไม่มีผู้ชม
ในที่สุด ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ ก็ยอมรับคำท้าดีเบทของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยตกลงที่จะเผชิญหน้ากับทรัมป์ ซึ่งเป็นคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ในการดีเบทอย่างน้อยสองครั้ง ก่อนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะไปลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือนพฤศจิกายน
ทั้งสองตอบรับคำเชิญจาก CNN และ ABC News เพื่อเข้าร่วมการดีเบทซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน และ 10 กันยายน ตามลำดับ CNN กล่าวว่าการอภิปรายครั้งแรกจะจัดขึ้นในสตูดิโอในเมืองแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐสวิงสเตทสำคัญ โดยไม่มีผู้ชม
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากการท้าทายหลายเดือนจากทรัมป์ รวมถึงคำท้าที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วว่า เขาพร้อมขึ้นดีเบททุกที่ทุกเวลา ในที่สุดไบเดนก็โพสต์คลิปตัวเองบน X เมื่อวานนี้ว่า ยอมรับคำท้า โดยกล่าวว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ แพ้การดีเบตให้ผมสองครั้งในปี 2020 ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวเพื่ออภิปรายอีกเลย ตอนนี้เขาทำเหมือนอยากจะอภิปรายอีกครั้ง เอาล่ะ ว่ามาเลยเพื่อน ได้ยินว่านายว่างวันพุธนี่นา (หมายถึง วันหยุดของการพิจารณาคดีอาญาของทรัมป์ในนิวยอร์ก )
ทรัมป์ตอบโต้บน Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนเอง โดยกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมดีเบทของ CNN และ ABC “โจ เจ้าเล่ห์ (Crooked Joe) เป็นนักโต้วาทีที่แย่ที่สุดที่ผมเคยเผชิญมา เขาไม่สามารถแม้แต่จะรวมสองประโยคเข้าด้วยกันได้! และเขายังเป็นประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอีกด้วย” อีกทั้งทรัมป์เสริมว่า เขาแนะนำให้มีการดีเบทมากกว่า 2 ครั้ง และเพื่อให้น่าตื่นเต้น ควรจัดในสถานที่ขนาดใหญ่มากๆ แม้ว่าไบเดนจะกลัวฝูงชนก็ตาม พร้อมทิ้งท้ายว่า เขาพร้อมขึ้นชกแล้ว!!!
การดีเบทครั้งนี้ ถือเป็นการแหวกธรรมเนียมสำหรับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประการแรกเพราะจัดขึ้นโดยไม่มีผู้ฟังเข้าร่วม สอง เป็นการจัดโดยสื่อมวลชน ซึ่งปกติแล้วการดีเบทดั้งเดิมจะจัดโดยคณะกรรมาธิการดีเบทของทางการ ซึ่งมักจะจัดการโต้อภิปรายทั้งหมด 3 ครั้ง และในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้วางแผนที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการดีเบท ในวันที่ 15 กันยายน, 1 และ 9 ตุลาคม
สำหรับในศึกชิงตำแหน่งครั้งก่อนในปี 2020 การดีเบทครั้งแรกระหว่างทั้งสองเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก เพราะมีการแย่งกันพูด หรือพยายามขัดจังหวะ ส่วนดีเบท ครั้งที่สองถูกยกเลิกทรัมป์ติดโควิด และปฏิเสธที่จะเข้าร่วมผ่านลิงก์วิดีโอ