สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่นำโดยรีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมายบังคับให้ไบเดน ส่งอาวุธไปอิสราเอล ส่อความแตกแยกร้าวลึกของสองพรรคเกี่ยวกับนโยบายต่ออิสราเอล แม้ไบเดนจะไม่มีทางลงนามผ่านเป็นกฎหมาย
ในวันพฤหัสบดี สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐที่นำโดยพรรครีพับลิกัน ได้ลงคะแนน 224 ต่อ 187 เสียง ผ่านร่างกฎหมาย ที่จะบังคับให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งอาวุธไปยังอิสราเอล และจะระงับเงินทุนสำหรับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ จนกว่าจะมีการส่งมอบอาวุธดังกล่าว โดยมีสส.จากเดโมแครต 16 คน ร่วมโหวตอนุมัติด้วย
ด้วยความพยายามกีดกันอิสราเอลในการส่งกองกำลังเข้าสู่เมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ที่มีประชาชนลี้ภัยอยู่อย่างหนาแน่น ฝ่ายบริหารของไบเดนในเดือนนี้ จึงได้ระงับการขนส่งอาวุธระเบิด 3 พัน 500 ลูก จากความกังวลว่า อิสราเอลจะใช้ระเบิดเหล่านี้ในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ ซึ่งพรรครีพับลิกันได้แสดงความไม่พอใจ และกล่าวหาว่า ไบเดนละทิ้งพันธมิตรสหรัฐที่ใกล้ชิดที่สุดในตะวันออกกลาง
แม้ว่าร่างดังกล่าว คาดว่าจะไม่สามารถถูกบังคับใช้ได้จริง เนื่องจากวุฒิสภาที่นำโดยพรรคเดโมแครต จะปฏิเสธร่างกฎหมายดังกล่าว และไบเดนก็จะไม่มีทางลงนาม แต่การผ่านร่างกฎหมายครั้งนี้ เน้นย้ำถึงความแตกแยกอันลึกซึ้งในปีการเลือกตั้งของสหรัฐฯเกี่ยวกับนโยบายอิสราเอล
พรรครีพับลิกันกล่าวหาว่า ไบเดนหันหลังให้กับอิสราเอล หลังจากเผชิญกับการประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับผู้นำพรรคอื่นๆ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมว่า ไบเดนทำแบบนั้นเพื่อหวังผลการเมือง ส่วนพรรคเดโมแครตสวนกลับว่า รีพับลิกันกำลังบิดเบือนจุดยืนของไบเดนที่มีต่ออิสราเอล เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเช่นกัน
อิสราเอล ซึ่งเป็นได้รับความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่จากสหรัฐมานานหลายทศวรรษ ยังคงมีกำหนดได้รับอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐ แม้ว่าจะมีความล่าช้าในการขนส่งระเบิด และการทบทวนการขนส่งอาวุธอื่นๆ โดยฝ่ายบริหารของไบเดน ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้เริ่มนำแพ็คเกจความช่วยเหลือด้านอาวุธมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา