"อว." ร่วม "TopNews" เปิดโครงการ "สร้างโอกาสการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จ" ขยายความเท่าเทียมความรู้ นำพัฒนาคุณภาพชีวิต

“อว.” ร่วม “TopNews” เปิดโครงการ “สร้างโอกาสการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จ” ขยายความเท่าเทียมความรู้ นำพัฒนาคุณภาพชีวิต

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานโครงการ “สร้างโอกาสการเรียนรู้สู่ความสำเร็จ” VISION TALK 4 มหาวิทยาลัย พร้อมกล่าวปาฐกถาเรื่อง “การสร้างโอกาสการเรียนรู้สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน” ณ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพ ห้องรัตนโกสินทร์ ชั้น 1

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวเปิดโครงการ ว่าการสร้างโอกาสการเรียนรู้ในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆในชีวิต ไม่เพียงแต่การพัฒนาฐานความรู้และทักษะแต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคม การให้ความรู้และการศึกษาอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน คือเป้าหมายสำคัญของกระทรวง อว. ที่จะขับเคลื่อนโยบายต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อย่างเช่น นโยบายฟรี TCAS ก็เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายที่สำคัญ เพื่อที่จะลดภาระค่าใช้จ่าย ลดการเหลื่อมล้ำ และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กทุกคน ซึ่งมีเด็กที่เลือกเข้ามหาวิทยาลัยครบ 10 อันดับ เพิ่มขึ้น 30,000 กว่าคน จาก 100,000 คน จึงถือว่าเพิ่มโอกาสให้กับเด็กอีกจำนวนกว่า 30,000 คน ในการเข้าสู่การศึกษาระดับอุดมศึกษา ถือเป็นเรื่องที่กระทรวง อว. มีความยินดีและประสบความสำเร็จที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาให้กับเด็กที่สอบเข้าไม่ได้ ได้มีโอกาสได้เรียนต่อ

ข่าวที่น่าสนใจ

“รมว.อุดมศึกษาฯ” เปิดโครงการ “สร้างโอกาสการเรียนรู้สู่ความสำเร็จ” นำบุคคลต้นแบบ ร่วมปลุกแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ทั่วปท.

“ศุภมาส” สื่อเวทีนานาชาติ เดินหน้านโยบาย “อว. For EV” นำไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้า

“ศุภมาส” ยกระดับวิทย์ไทย อว.พัฒนาอุตฯ “รำข้าว” สร้างโอกาสเชิงพาณิชย์

นอกจากการศึกษาในระดับพื้นฐานแล้ว กระทรวง อว.ยังสนับสนุนในเรื่องของการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีการฝึกอบรม พัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการรองรับความเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต จนเชื่อว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีคือเครื่องมือที่ทรงพลังในการขยายโอกาสการเรียนรู้ให้กับทุกคนและเพิ่มโอกาสทางการศึกษาการสร้างโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมจะนำไปสู่สังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน โครงการสร้างโอกาสการเรียนรู้สู่ความสำเร็จที่จัดโดยสถานีข่าวท็อปนิวส์ และกระทรวง อว. จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างพื้นที่ทางโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและการทำงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเติบโต เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับคนรุ่นใหม่ และสร้างอนาคตความสำเร็จได้ด้วยตนเอง ส่วนตัวมองว่าความสำเร็จไม่ได้สิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลลัพธ์ของการพยายาม และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในความสำเร็จ คือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนฝากน้องๆนักเรียนนิสิตนักศึกษาทุกคนจงเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดและใช้โอกาสที่เข้ามาในชีวิตให้เต็มที่เพราะความสำเร็จไม่ได้มาจากสิ่งที่เรามีแต่เกิดจากสิ่งที่เราทำ

ภายในงานแถลงข่าวมีการเปิดเวทีเสวนาสร้างแรงบันดาลให้คนรุ่นใหม่ VISION TALK : Change to Chance การบริหารโอกาสสู่เส้นชัยด้วยความสำเร็จที่ออกแบบได้ ร่วมเสวนาโดย นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ บจก.สมุนไพรไทย หงส์ไทย, นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าว TOPNEWS และนายชวัส จำปาแสน (ครูอะไหล่) ศิลปินและผู้ก่อตั้งสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล โดยแขกรับเชิญทั้ง 3 ท่านได้มาแชร์ประสบการณ์เส้นทางชีวิต มุมมองแนวความคิด วิธีตั้งเป้าหมายกับการออกแบบความสำเร็จด้วยโอกาสกับต้นทุนทางสังคมที่แตกต่างกัน แต่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน โดยมีบางช่วงบางตอนของทั้ง 3 ท่าน คร่าวๆได้ดังนี้

นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าว สถานีข่าวท็อปนิวส์ เล่าถึงคำว่าโอกาส เป็นคำสำคัญในชีวิตของตน ตนเป็นชาวกาฬสินธุ์ หากไม่มีโอกาส ก็จะไม่มีตนในวันนี้ ตนเป็นตัวอย่างให้กับตัวเอง ด้วยคำพูดที่พูดว่าประเทศนี้ไม่ให้โอกาสให้กับคน ไม่เป็นความจริง เพราะถ้าประเทศนี้ไม่ให้โอกาสคน วันนี้ตนไม่มาถึงวันนี้ โอกาสก็ไม่ได้มาลอยๆ โอกาสเป็นสิ่งสำคัญในที่สุด เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของคน ไม่ว่าจะใครก็ตาม และโอกาสจะเกิดขึ้นได้ ตัวเราเองก็ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างมันขึ้นมาด้วย

นายสันติสุข ยังกล่าวถึงแนวคิดการทำงาน เมื่อได้รับโอกาสแล้ว โดยตนขอถอดบทเรียนของตนจาก 4 พ. คือ 1.การเตรียมความพร้อมตนเอง เพื่อพร้อมต่อโอกาสที่จะได้รับ เช่น เราอยากเป็นนักข่าว เราต้องเตรียมพร้อมเข้าใจว่าอะไรคือรัฐบาล อะไรคือสภา แล้วเขาทำงานกันยังไง นี่คือพร้อมเบื้องต้น คือพร้อมในองค์ความรู้ในสิ่งที่เราอยากจะเป็น 2.พุ่ง เราต้องพุ่งเข้าหาโอกาส เช่น เมื่อเราอยากเป็นนักข่าว เมื่อมีการเปิดรับสมัคร หรือจัดอบรม เราต้องพุ่งเข้าไปทันที 3.พบ คือการพบกับงานที่เราตั้งใจจะได้ทำ และ 4.พยายาม ไม่ว่าเราจะเตรียมความพร้อมแค่ไหนก็ตาม เมื่อได้โอกาสแล้วต้องพัฒนาพยายามทำให้ดีที่สุด ตนเชื่อว่าทุกอาชีพที่เด็กๆน้องๆอยากจะทำนั้น ทำได้ทุกอย่าง โดยยึดหลักเหล่านี้ก็จะทำให้งานเราพัฒนาขึ้นไปได้ อย่างเช่น ตนทำรายการทีวี ทุกครั้งตนก็จะย้อนกลับไปนั่งดูผลงานของตนเองอยู่ตลอด เพื่อดูข้อบกพร่องและเติมเต็มเพื่อพัฒนาต่อยอดไป เช่นเดียวกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ตามหลักอิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา หรือรักและเพียรพยายามในงานของเรา รวมไปถึงการใส่ใจงานของเรา พัฒนาต่อยอดต่อไป

ด้านนายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ บจก.สมุนไพรไทย หงส์ไทย เล่าแชร์ประสบการณ์กว่าที่บริษัทหงษ์ไทยเป็นที่รู้จักของสังคม โดยเล่าว่าโอกาสคือสิ่งที่ตนได้เกิดมา แต่เมื่อเกิดมาแล้วเราก็ไม่สามารถกำหนดได้ว่าเราจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหน แต่เราได้เกิดมาแล้ว ก็ภูมิใจในฉบับที่เราได้เกิดมา เราได้เห็นพ่อเราทำงานทุกวัน มีอาชีพขับรถแท็กซี่ สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ตอนนั้น เราเห็นทุกอย่างที่พ่อแม่เราทำ หากวันไหนที่ท่านทั้ง 2 อยู่บ้าน นั่นหมายความว่าท่านป่วย ถ้าวันไหนท่านไม่ป่วยท่านต้องออกไปทำงานหาเงิน ท่านทำงานหาเงินหาเช้ากินค่ำ เราสัมผัสถึงตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า เราจะออกมาทำงานช่วยพ่อแม่แบ่งเบาภาระหน้าที่ เรียนจบม.6 เราตัดสินใจไม่เรียนต่อ เราอยากจะช่วยพ่อเรา โอกาสสำคัญที่สุดในตอนนั้นคือ เราได้รับรู้ถึงความลำบากถึงที่บ้าน จนต้องออกมาทำงาน ถามว่าอยากเรียนไหม อยากเรียนเหมือนเพื่อนๆ แต่ลำพังที่เราเข้าใจเร็ว เราจึงต้องมาแบ่งเบาภาระครอบครัว หากเราไม่ได้เรียน เราก็ขอทำงานแล้วเรียนรู้ไปกับการทำงาน จนทำให้วันนี้มีหงส์ไทย ทำให้เราได้ศึกษาเลือกถูกมากกว่าเลือกผิด

นายธีระพงศ์ ยังบอกด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของตน ในช่วงอายุ 13-14 ปี สมัยยุคโทรทัศน์ขาวดำ โฆษณาของธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีคำสอนของในหลวง ตนจดจำและนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน ทำแล้วปฏิบัติตามคำสอน นั่นก็คือว่า เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราสามารถทำให้คนดีปกครองคนไม่ดีได้ เรายึดหลักตรงนี้ ทำให้เราเชื่อในแนวทางและการศึกษาเรียนรู้ในแบบฉบับที่ทำงานจริง เลือกเอา อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรถูก อะไรผิด และสิ่งหนึ่งที่เราเลือกทั้งหมด ในวันที่เป็นหงส์ไทยแล้ว หงษ์ไทยไม่ได้เก่งมาจากไหน แต่หงษ์ไทยเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จากชีวิตทั้งหมด จึงทำให้วันนี้มีหงส์ไทยทีาจะทำให้ทุกคนพอใจ มีผลิตภัณฑ์ของคนไทยที่สามารถภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทย เอาไว้ดันกับชาวต่างชาติ เราอยากทำสินค้าที่ดีให้กับคนไทย อยากให้คนไทยชื่นชมว่าอันนี้แหละคือผลงานของคนไทย สิ่งสำคัญที่มีได้ คือผู้บริโภคส่งเสริมเรานั่นคือโอกาส โดยนำโอกาสที่มีมาต่อยอดและพัฒนาตามคำสอน ตามแบบฉบับที่ไม่สร้างหนี้ เราต้องสู้ก่อนกู้ เราก็จะสอนเด็กๆน้องๆเยาวชนว่าให้สู้โดยใช้องค์ความรู้ก่อนที่จะไปกู้ควรวางแผนและเรียนรู้อย่างรอบคอบ

ขณะที่ นายชวัส จำปาแสน (ครูอะไหล่) ศิลปินและผู้ก่อตั้งสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล ได้เล่าแชร์ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจมาจากคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เรียนรู้ชีวิตในช่วงมหาวิทยาลัย อยากเรียนต้นแบบอาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งตนรู้สึกท้อเพราะอาจารย์อยู่สูงมาก เราก็หาวิธีพัฒนาตัวเองโดยการเรียนรู้ โดยดูจากตนเอง ตรวจสอบตัวเองว่าเรามีอะไร จนกระทั่งเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ตนค่อนข้างที่จะดื้อด้านเหมือนเด็กทั่วไป เราได้เรียนรู้ชีวิตประจำวันได้มีการลองผิดลองถูก ได้เรียนรู้จากผู้หลักผู้ใหญ่ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนค้นพบบุคคลต้นแบบที่ดีที่สุด ที่คือในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งตนจะเลียนแบบจนกลายมาเป็นโครงการ Street Art ที่ตนไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ขอแค่ทำให้ดีที่สุด พัฒนาตัวเองและตรวจสอบข้อบกพร่องของเรา

ครูอะไหล่ บอกว่าตนก็จะมีเงื่อนไขกับตนเอง 3 ประการคือคนที่ตนจะฟังคือ 1.บุคคลนั้นจะต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความเฉลียวฉลาด แหลมคมทางปัญญา และสามารถอธิบายความคิดเหล่านั้นออกมาได้ตนเข้าใจได้ง่าย 2.คนคนนั้นจะต้องมีผลงาน และ 3 คือคนที่เสียสละ คิดถึงแต่ส่วนรวม