หนังสือพิมพ์ โคเรีย ไทมส์ ลงบทความบนหน้าเวบไซต์ ใต้พาดหัว “ออกคำเตือนการเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีในพัทยา” (Travel warning issued for SE Asia after murder of Korean tourist in Pattaya ) มีเนื้อหาว่า เหตุนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ถูกเพื่อนร่วมชาติอุ้มฆ่า ทำให้ทางการเกาหลีใต้ออกคำแนะนำเรื่องการเดินทาง หรือข้อควรรู้ก่อนการเดินทาง (Travel Advisory) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ย้ำเตือนว่าชาวเกาหลีใต้ตกเป็นเป้าทำร้ายบ่อยครั้ง โดยเฉพาะจากชาวเกาหลีใต้ด้วยกันเอง แม้ว่าเคยลดลงไปบ้างแล้วชั่วคราวในช่วงโควิดระบาด
รายงานระบุว่า หลังจากเกิดเหตุชาวเกาหลีใต้ถูกกรรโชกทรัพย์ในฟิลิปปินส์หลายกรณี เวลานี้ พบเห็นอาชญากรรมรุนแรงในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น บางครั้งเชื่อมโยงกับการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางมาประเทศไทย
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ วัย 34 ปี ใช้ชื่อว่า A ถูกพบเป็นศพในอ่างเก็บน้ำที่พัทยา นิ้วเหยื่อถูกตัด ร่างถูกยัดไว้ในถังพลาสติก ตอกย้ำความโหดเหี้ยมของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น
ด้วยวัฒนธรรมสถานบันเทิงยามค่ำคืนและการพนันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นจุดร้อนของอาชญากรรมพุ่งเป้าชาวเกาหลี โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรุนแรงจากอาวุธปืนและกรรโชกทรัพย์ เหยื่อที่ถูกเลือกมาแล้วก่อนหน้า ถูกล่อลวงไปติดกับโดยใช้หญิงบริการเป็นเหยื่อล่อ ก่อนเรียกเงินแลกกับการปล่อยตัว
ประเทศไทยกลายเป็นแดนอันตรายอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด
เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ไทยประกาศถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ผลกระทบทางลบปรากฏอย่างรวดเร็ว ชาวต่างชาติกลายเป็นเหยื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่งเสียชีวิต หลังจากดื่มชากัญชา ที่คาเฟ่กัญชาแห่งหนึ่งบนถนนคนเดิน ในพัทยา
A นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตจากอุ้มฆ่า อาจเป็นเหยื่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเช่นกัน คนร้ายเรียกค่าไถ่ 11.2 ล้านวอนจากแม่ของเขา โดยอ้างว่า “ลูกชายของเธอนำยาเสพติดไปทิ้ง และเผชิญผลตามมา”
ประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ปลอดภัยจากอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเช่นเดียวกัน
เมื่อเดือนตุลาคม 2559 พัค วัง ยอล ผู้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ ราชายาเสพติด สังหารชาวเกาหลีใต้ 3 คนในฟิลิปปินส์ และทำลายศพ ขณะใช้ฟิลิปปินส์เป็นฐานกระจายยาเสพติดไปทั่วโลก
อาชญากรรมพัวพันกับยาเสพติดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุดความสนใจครั้งใหม่ ทำให้ชาวเกาหลีใต้เริ่มกลัวที่จะเดินทางมา
พนักงานออฟฟิศวัย 30 ปีคนหนึ่ง ที่สื่อระบุนามสกุลว่า อี (Lee) กล่าวว่า เขากำลังวางแผนเดินทางมาประเทศไทยในวันหยุดฤดูร้อน แต่อาจเปลี่ยนแผน เพราะกังวลทั้งเหตุการณ์ที่เหมือนในหนัง และอาชญากรรมจากการเลียนแบบ
ในชุมชนออนไลน์ก็มีการแชร์ประสบการณ์ จากคนหนึ่ง ว่า “ A ถูกอุ้มไปจากคลับที่ได้รับความนิยมของชาวต่างชาติ มีครั้งหนึ่ง ฉันก็เคยหมดสติไปหลังรับเครื่องดื่มจากใครบางคนมาดื่ม”
ทางด้าน สถานทูตเกาหลีใต้ตื่นตัวเฝ้าระวังความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย แนะนำว่า ให้ตรวจสอบสัญลักษณ์ ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ หรือ เมนู ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา และระมัดระวังร้านที่ขายกัญชาโดยเฉพาะ
ส่วน สถานทูตเกาหลีใต้ในฟิลิปปินส์ ได้โพสต์คำแนะนำว่าด้วยการป้องกันตัวเองเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดอันตราย หนึ่งในข้อควรระวังคือ แก๊งค้ายาข้ามชาติใช้ช่องทางสื่อโซเชียล ล่อลวงเหยื่อเข้าไปในวงการลอบขนค้ายาเสพติด โดยสัญญาว่า จะได้ค่าตอบแทนอย่างงาม และหากต้องสงสัยว่ามีใครหายตัวไป ต้องแจ้งตำรวจหรือสถานทูตทันที