“พายุ” ​เห็นต่าง “ดร.เอ้” ปมอุบัติเหตุสายการบินสิงคโปร์ เปรียบเทียบไม่ถูกต้องและบิดเบือนเกณฑ์การวัด

"พายุ" ​เห็นต่าง "ดร.เอ้" ปมอุบัติเหตุสายการบินสิงคโปร์ เปรียบเทียบไม่ถูกต้องและบิดเบือนเกณฑ์การวัด

พายุ” ​เห็นต่าง “ดร.เอ้” ปมอุบัติเหตุสายการบินสิงคโปร์ เปรียบเทียบไม่ถูกต้องและบิดเบือนเกณฑ์การวัด

นายพายุ เนื่องจำนงค์ หรือ “พายุ” คณะทำงานหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ ใจความระบุว่า มุมมองส่วนตัว: จากที่ได้อ่านบทความนี้ของทาง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ที่ผมมีโอกาสได้ทำความรู้จัก, เคารพและเห็นด้วยในแนวคิดหลายๆเรื่องของท่าน แต่ในกรณีการเปรียบเทียบสถานการณ์อุบัติเหตุทางอากาศของสายการบินสิงคโปร์ กับการบริหารจัดการเรื่องโรงงานไหม้ที่ระยอง ผมขออนุญาตเห็นต่างและมองว่าเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้องและบิดเบือนเกณฑ์การวัดที่ทาง ดร.เอ้ นำมาใช้ในการประเมิณผลการบริหารของสองบุคคลที่ถูกกล่าวถึง

พายุ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1. หากยึดตาม logic การเปรียบเทียบของ ดร.เอ้ แล้ว.. ทาง CEO ของสิงคโปร์แอร์ไลน์นั้น มีหน้าที่รับผิดชอบเพียงสายการบินเดียวที่มีพนักงานอยู่ที่ 14,803 คน หรือหาก ดร. อยากรวมผู้โดยสารด้วยก็อยู่ที่ประมาณ 18.15 ล้านคน (ข้อมูลปี ‘22/’23).. แต่ในเวลาเดียวกัน นายกฯเศรษฐา นั้นมีความรับผิดชอบต่อทั้งประเทศที่มีประชากรอยู่ที่ 66,052,615 คน (ข้อมูลปี ‘23) หรือถ้ารวมนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทยในปีที่ผ่านมาไปด้วยก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 28.04 ล้านคน

2. ที่ผมพูดถึงตัวเลขทั้งหมดนี้ในข้อที่ 1 ก็เพื่อเป็นตัวเลขเพื่อการเปรียบเทียบ scale ของความรับผิดชอบที่แตกต่างระหว่างสองบุคคลที่เห็นได้ชัด.. ซึ่งถ้าทาง ดร.เอ้ เองอยากจะเทียบให้ “สมน้ำสมเนื้อ” และแฟร์ต่อ ท่านนายกฯ ก็คงต้องให้ทาง CEO ของสิงคโปร์แอร์ไลน์นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลทั้ง 26 สายการบินในเครือพันธมิตรการบิน Star Alliance ที่สิงคโปร์แอร์ไลน์นั้นเป็นสมาชิกอยู่รวมเข้าไปด้วยถึงจะเทียบกันได้

 

 

3. กรณีวิกฤติที่ระยองนั้นเป็นเพียง 1 เรื่องของอีกหลากหลายวิกฤติที่ท่านนายกฯ ในฐานะ “CEO ของประเทศ” นั่นเฝ้าจับตาดูและแม้จะส่งผู้มีหน้าทีรับผิดชอบโดยตรงเข้าไปดูต่อในแต่ละเรื่อง ท่านก็ยังต้องบริหารจัดการและดูแลอยู่พร้อมๆกันให้แก่ประชาชน 66 ล้านชีวิตยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยว/ผู้ลี้ภัย/ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากไทย.. เช่น ผู้โดยสารและลูกเรือของไฟลท์สิงคโปร์แอร์ไลน์นี้ที่ต้องขอลงจอดฉุกเฉินในไทยนั้นรวมอยู่ด้วย

4. การที่ CEO ของสิงคโปร์แอร์ไลน์นั้นบินมาไทยเพื่อมาดูแลผู้โดยสารของเขาเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่องในฐานะผู้บริหารสายการบิน.. แต่โปรดอย่าลืมนะครับว่าก็เป็นทางรัฐบาลไทยภายใต้ความรับผิดชอบของท่านนายกฯเศรษฐา ที่เป็น first responder ที่ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบินนี้จนกระทั้งทางสิงคโปร์แอร์ไลน์สามารถมารับช่วงต่อ ที่แม้กระทั้งนายกฯของสิงคโปร์เองก็ได้ชื่นชมและขอบคุณรัฐบาลไทยในความช่วยเหลือนี้

ดังนั้นแม้กระทั้งตัวสถานการณ์วิกฤติของสิงคโปรแอร์ไลน์ที่ ดร.เอ้ เองได้นำมาเปรียบเทียบ “crisis management skills” ของท่านนายกฯเศรษฐา ก็ยังได้อานิสงส์จากการบริหารจัดการทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในไทย (ไม่ใช่แค่วิกฤติ) ของท่านนายกฯอยู่ดีครับ.. แล้วไม่สำคัญว่าท่านจะลงไปหน้างานกี่ครั้งในเมื่อท่านได้มีการสั่งการและติดตามเรื่องอยู่ตลอด behind the scene ในฐานะนักบริหาร.. ซึ่งสิ่งที่ ดร.เอ้ พูดถึงและใช้เป็นหนึ่งในปัจจัยของเกณฑ์วัดการเปรียบเทียบในบทความนี้คือ skill การ “ประชาสัมพันธ์” มากกว่า skill การบริหารวิกฤติครับ.. ผมจึงขอฝากไว้ให้ ดร.เอ้ ลองพิจารณาดูอีกครั้งนะครับ #รัฐบาลเศรษฐา #นายกเศรษฐา
Translate post

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น