ซินแสเข่ง ผ่าดวงเมือง เผย “บิ๊กป้อม” ม้ามืดนั่งนายกฯ
“ซินแสเข่ง” ผ่าดวง พ.ค.เดือนมรณะ มีขัดแย้ง รบ.วุ่นวาย ชี้ “บิ๊กป้อม” ม้ามืดนั่งนายกฯ
24 พ.ค.2567 อาจารย์ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ ซินแสเข่ง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์และนักพยากรณ์แห่งประเทศไทย ได้ผ่าดวงในเดือนพฤษภาคมนี้ว่า ถือว่าเป็นเดือนแห่งมรณะ เดือนแห่งการปะทะขัดแย้ง เป็นศัตรูหรือเบียดเบียนต่อดวงเมือง ก่อให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น จนถึงรัฐบาลที่ไม่อาจจะเดินหน้าต่อได้ ความวุ่นวายเกิดขึ้นแก่รัฐบาล ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตลอดจนถึงองค์กร หน่วยราชการต่างๆ ที่ดูแล้วค่อนข้างจะมีแต่ความขัดแย้ง อึดอัด แม้แต่วงการศาสนาก็เต็มไปด้วยอุตริมาลเกิดขึ้นอย่างมากมาย มีวิชามารต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ถ้าถามว่าระหว่างดวงเมืองกับจังหวะของการเดินของดวงดาวนั้น ดวงเมืองจะแพ้หรือไม่ก็ไม่แพ้ แต่จะทำให้บ้านเมืองนั้นช้ำมากกว่า ส่งผลไปถึงผู้คนประชาชนต่างๆ ในปี 2567นี้ ถือว่าเป็นปีที่มีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจเป็นปีที่ 3 ปีนี้ของภาวะเศรษฐกิจการเงินล่มสลาย
ส่วนสถานการณ์ของผู้นำพรรคเพื่อไทยนั้น ซินแสเข่ง ผ่าดวงว่า ก็คงจะพูดไม่ได้ว่านายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยจะเป็นบุคคลที่สามารถบงการชี้เป็นชี้ตายให้กับพรรคเพื่อไทยได้ ก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร แต่ในขณะนี้คุณทักษิณกำลังเจอวิบากกรรมจากการกระทำของตนเอง ตลอดจนถึงช่วงจังหวะรอบอายุที่เข้าครอบงำ ทำให้มีเรื่องให้หงุดหงิด ไม่สบายใจ มีปัญหาสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น มีเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้ง และไม่ได้ดั่งใจที่คาดหวัง มีเหตุให้เสียทรัพย์มากมาย ส่วนคุณเศรษฐาก็เป็นเพียงแต่ด่านหน้าที่จะต้องปะทะ แต่ไม่ได้บริหารด้วยตนเอง และดวงชะตานั้นก็ถือว่าไม่ได้ส่งผลให้มีโอกาสประสบความสำเร็จ เพียงแต่โชคดีที่มีโอกาสได้มาอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เดือนพฤษภาคมนี้ถือว่าเป็นเดือนมรสุมร้ายที่รุนแรงเกิดขึ้นกับตัวคุณเศรษฐา พร้อมด้วยรอบอายุที่เข้าครอบปีที่มีผลปะทะ การทำงานทุกอย่างนั้นจึงเป็นผลร้ายตอบกลับและอุปสรรคตลอดเวลา
สำหรับอุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ซินแสเข่ง บอกว่า ในปี 2567 นี้ ความจริงเธอก็เป็นคนที่มีดวงของการเป็นผู้นำอยู่ในตนเอง มีดวงงานราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในขณะเดียวกันนั้น ในดวงชะตามีปัญหากับอุปสรรค มีเหตุของความแตกแยก สับสนวุ่นวายไม่เข้าใจในดวงชะตา และประการที่สำคัญก็คือ เป็นบุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านการเมือง รอบปี 2567นี้จึงไม่ต่างจากคุณเศรษฐา ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องระวังในเรื่องของความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ สร้างความสับสน สร้างความขัดแย้ง สร้างความแตกแยกเป็นศัตรู
ซินแสเข่ง ยังบอกว่า บุคคลที่น่าจับตามองอีกท่านหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นม้ามืดที่อาจจะมีโอกาสได้ฉกฉวยช่วงจังหวะช่องว่างสูญญากาศรัฐบาล ที่กำลังมองหาบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองให้กับพรรคเพื่อไทย คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะนาทีนี้คงไม่มีใครที่จะมีทั้งอำนาจและบารมีเหนือบุคคลผู้นี้ไปได้ ประกอบกับบุคคลผู้นี้ก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับคุณทักษิณ แต่อยู่ที่ประชาชนที่เห็นว่าท่านอายุมากแล้ว และไม่ควรที่จะมานั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ถือว่าในช่วงระยะ ปี 2567 และ 2568 ก็เป็นช่วงจังหวะที่คุณทักษิณจะรับช่วงต่อ ถ้าหากว่าชะตาของคุณทักษิณไม่ถึงฆาตจริงๆ
#บก.ข่าวทีวี