ปิดฉาก10ปีแห่งการต่อสู้คดี 4 แกนนำ “กปปส.” ขวางเลือกตั้งขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ศาลฎีกาคุก “สนธิญาณ” 8 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี

ปิดฉาก 10 ปีแห่งการต่อสู้ คดี 4 แกนนำ "กปปส." ขวางเลือกตั้งขับไล่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ศาลฎีกาจำคุก "สนธิญาณ" 8 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วน 3 กปปส."สกลธี - สมบัติ - ดร.เสรี" พ้นมลทินพิพากษายืนตาม "ศาลอุทธรณ์"

TOP News เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ห้อง 607 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีกบฏ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557, อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 62 ปี แกนนำ กปปส.และผู้บริหารท็อปนิวส์, นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 47 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 73 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ นายเสรี วงษ์มณฑา อายุ 75 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด

ข่าวที่น่าสนใจ

เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152 รวม 8 ข้อหา

โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้องตั้งแต่ปี 2557 กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56-1 พ.ค.57 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี ขณะที่จำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธทุกข้อหา พร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้ง 4 ก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562 คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 25 ก.ค.62

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า นายสนธิญาณได้กระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. กรณีร่วมกับ นายสำราญ รอดเพชร ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าที่โรงเรียนสุโขทัย เขตดุสิต ให้จำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณารถโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมถึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-4 โจทก์ไม่ได้ร่วมนำสืบว่าได้ร่วมพยานหลักฐานไปขัดขวางการเลือกตั้ง อีกทั้งไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 2-4 ไม่ได้ร่วมขัดขวางการเลือกตั้ง ส่วนอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่นไม่เป็นสาระสำคัญ ที่แก้เฉพาะจำเลยที่ 1 นอกนั้นให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

สำหรับวันนี้มีประเด็นเฉพาะฎีกาจำเลยที่ 1 นายสนธิญาณ ศาลฎีกาพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายสนธิญาณ 8 เดือน แต่พิจารณาเล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายมาก ไม่เคยรับโทษมาก่อนประกอบอาชีพเป็นสื่อมวลชน เห็นควรให้ประกอบอาชีพไปรับใช้สังคม การลงโทษจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์ แต่เพื่อให้หลาบจำ เห็นควรรอลงอาญา 2 ปี ปรับ 2 หมื่น ส่วนจำเลยที่เหลือให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

 

“สกลธี” ลั่นหลังจากนี้จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำงานการเมืองที่รัก

นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตแกนนำกปปส. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กว่า 10 ปีแห่งการต่อสู้และรอคอยโดยระบุรายละเอียดว่า เช้านี้ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาฎีกาของผมคดีกบฎ อั้งยี่ ซ่องโจร บุกรุกสถานที่ราชการและขัดขวางการเลือกตั้ง อันเป็นผลมาจากการออกไปร่วมต่อสู้กับพี่น้องประชาชนอีกหลายล้านคนในช่วงนั้น เป็นเวลา 10 ปี พอดีครับนับตั้งแต่ถูกอัยการคดีพิเศษสั่งฟ้องเมื่อปี 2557 ผมได้ต่อสู้คดีมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น อุทธรณ์และฎีกามาตามลำดับ และศาลท่านได้มีคำพิพากษายกฟ้องผมทั้ง 3 ศาล

มาวันนี้คดีได้ถึงที่สุดแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมและครอบครัวในการเข้าเบิกความและต่อสู้มาจนถึงที่สุด แต่ผมก็เต็มใจยอมรับผลของการต่อสู้ของผมและยังคงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่ได้ให้กำลังใจผมเสมอมาในทุกช่องทาง ทีมทนายที่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และที่สุดก็คือครอบครัวของผมที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาและเป็นทุกข์กับคดีความมากกว่าตัวผมเสียอีก ขอบคุณจากหัวใจครับ หลังจากนี้จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำงานการเมืองที่รักได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังอีกต่อไปครับ แล้วพบกันนะครับ พร้อมติดแฮชแทก #สู้เข้าไปอย่าได้ถอย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น