“คมนาคมสิงคโปร์” เปิดผลสอบสวนเบื้องต้น เที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต เจ็บสาหัส Top News รายงาน
รายงานสอบสวนเบื้องต้น เหตุเที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศรุนแรง ชี้แรงโน้มถ่วงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กับความสูงที่ลดลง 54 เมตร ในเวลา 4.6 วินาที เป็นสาเหตุที่ทำให้คนบนเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ
ข่าวที่น่าสนใจ
กระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ เปิดเผยรายงานสอบสวนเบื้องต้น ที่สำนักงานสอบสวนความปลอดภัยคมนาคม หรือ TSIB วิเคราะห์ข้อมูลจากกล่องบันทึกข้อมูลการบินและเสียงสนทนาในห้องนักบิน ระบุว่า เครื่องบินทำการบินปกติ กระทั่งเข้าสู่บริเวณอากาศปั่นป่วนทางใต้ของเมียนมา ที่ความสูง 3 หมื่น 7 พันฟุต
เครื่องบินประสบกับแรงโน้มถ่วง หรือค่า G เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยตัวลอยขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้น ค่าความเร่งแนวดิ่ง เปลี่ยนแปลงจาก -1.5 G มาเป็น +1.5 G ภายใน 4 วินาที ทำให้ผู้โดยสารที่ตัวลอย ตกลงมาอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงค่าแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็วในระยะเวลารวม 4.6 วินาที เป็นเหตุให้ความสูง ลดลง 54 เมตร หรือ 178 ฟุต ( จาก 3 หมื่น 7 พัน 362 ฟุต มาอยู่ที่ 3 หมื่น 7 พัน 184 ฟุต) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับเหล่านี้ น่าจะเป็นสาเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ
เหตุตกหลุมอากาศกับ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางลอนดอน-สิงคโปร์ ซึ่งมีผู้โดยสาร 211 คน ลูกเรือ 18 คน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารชาวอังกฤษ วัย 77 ปี เสียชีวิต คาดว่าเกิดจากหัวใจวาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 104 คน
ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม สายการบินแจ้งว่า ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวในโรงพยาบาล 26 คน
การสอบสวนยังดำเนินต่อไป โดยทีมสอบสวนทั้งหมด ประกอบไปด้วยพนักงานสอบสวน TSIB ซึ่งเป็นหน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ ทางเรือและรถไฟ ในสังกัดกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ ตัวแทนจากสำนักงานความปลอดภัยคมนาคมแห่งชาติสหรัฐ (NTSB) สำนักงานการบินสหรัฐ (FAA) และบริษัทโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
