สำหรับ “แป้ง นาโหนด” เป็นนักโทษก่อเหตุหลายคดีสำคัญ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” อายุ 37 ปี เป็นชาว ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง ที่วันนี้กลายเป็นคนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมราชทัณฑ์ ต้องการตัวมากที่สุด หลังแหกคุก ปลดตรวนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีลูกสมุนหลายคนให้การช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกจนสามารถพ้นการจองจำ จากหลายคดีที่รอวันตัดสินโทษอยู่
โดยมีภรรยาชื่อ นางนิตยา พลายแก้ว อายุ 38 ปี มีบุตร 2 คน ชื่อ ด.ช.กฤติน ทองด้วง อายุ 5 ขวบ และ ด.ญ.ณัฎฐ์นัญ ทองด้วง อายุ 1 ปี
มีอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถ อยู่ในพื้นที่ตำบลท่าแค ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถชื่อดังที่คนพัทลุงรู้จักกันดี และ แป้ง นาโหนด ถือเป็นคนดังของจังหวัด เคยลงเล่นการเมืองท้องถิ่น จนได้เป็นเลขานุการประธานสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง และในพัทลุงถือเป็นผู้กว้างขวาง
“เสี่ยแป้ง” จะเป็นคนพูดเพราะ แม้กับลูกน้องก็พูดจาดี ไม่ก้าวร้าว แต่มักจะมองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และอาวุธปืน จนมีคดีความอยู่หลายคดี
เคยก่อเหตุจนมีคดีสำคัญ ประกอบด้วย 1. วันที่ 4 ม.ค. 50 ข้อหา ฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๑๐/๒๕๕๐ สภ.เมืองพัทลุง 2. วันที่ 3 ธ.ค. 50 ข้อหา ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน คดีที่ ๑๓๔/๒๕๕๐ สภ.ป่าบอน 3. วันที่ 21 เม.ย. 51 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๓๔๔/๒๕๕๑ สภ.เมืองพัทลุง 4 .วันที่ 1 พ.ค. 51 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๔๔๒/๒๕๕๑ สภ.เมืองพัทลุง 5. วันที่ 18 ก.พ. 52 ข้อหา มีอาวุธปืน กระสุนปืน วัตถุระเบิด ใช้เฉพาะในการสงคราม คดีที่ ๓๔/๒๕๕๒ สภ.เขาชัยสน
6. วันที่ 12 มี.ค. 52 ข้อหา บุกรุกในเวลากลางคืน คดีที่ ๔๕๕/๒๕๕๒ สภ.เมืองพัทลุง 7. วันที่ 11 ต.ค. 54 ข้อหา พ.ร.บ.ราชฑัณท์ คดีที่ ๑๙๘๗/๒๕๕๔ สภ.เมืองพัทลุง 8. วันที่ 3 ธ.ค. 59 ข้อหา ฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๔๒๗๐/๒๕๕๙ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช 9. วันที่ 27 พ.ค. 60 ข้อหา ฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๒๙๔/๒๕๖๐ สภ.ชะอวด 10. วันที่ 2 ก.ค. 62 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๓๑๓/๒๕๖๒ สภ.นาขยาด 11. วันที่ 9 ก.ย. 62 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น คดีที่ ๖๗๗/๒๕๖๒ สภ.เมืองพัทลุง
ทั้งนี้จากประวัติจากทางตำรวจยังพบว่า แป้ง นาโหนด ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งค้าและเสพยาบ้า ไอซ์ เป็นผู้ค้ารายใหญ่ เวลาเดินทางไปไหนจะมีผู้ติดตามหลายคน และใช้รถหลายคัน ในรถมีทั้งอาวุธปืนสั้นและยาว มีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย และมีอาวุธสงคราม มีความสนิทกับ ผกก.ในพื้นที่ และนักการเมืองท้องถิ่น ต่อมาพบว่าร่วมค้าและเสพ ร่วมกับ นายสิทธิเดช ทรงเดชะ (จรวจ)
นอกจากนี้ นายเชวลิต ทองด้วง เคยถูกจับกุมใน พ.ร.บ.อาวุธปืน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าหลายคดี และเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.พัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง เคยติดคุกอยู่ที่เรือนจำกลางสงขลา เมื่อพ้นโทษออกมามีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้สั่งสมกำลังคน อาวุธปืน อาวุธปืนสงคราม และใช้กำลังคนและอาวุธปืนก่อเหตุ และข่มขู่ประชาชนในพื้นที่ มีการเรียกค่าคุ้มครองจากผู้รับเหมางานก่อสร้างของรัฐโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ปล้นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจำนวนหลายราย ออกเงินกู้ รับจ้างทวงหนี้ กรณีลูกหนี้ไม่จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย จะจับตัวลูกหนี้ไปขังไว้และให้ญาตินำเงินไปไถ่ตัว จำนวนหลายราย แต่ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากกลัวถูกทำร้ายร่างกาย หรือทำลายทรัพย์สิน และยังมีพฤติการณ์ร่วมกับนักค้ายาเสพติดหลายคน ร่วมเป็นกระบวนการใหญ่ มีบุคคลทั้งในและนอกพื้นที่ จ.พัทลุง ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมือง โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ และเคยสั่งการให้เครือข่าย ทำการยิงบุคคลที่ค้างเงินค่ายาเสพติด ด้วยอาวุธปืนสงคราม เนื่องจากค้างเงินค่ายาเสพติดหลายงวด และยังเกี่ยวข้องกับการยิงบ้านเรือนชาวบ้านเพื่อทวงเงินค่ายาเสพติดอีกหลายคดี ทำให้ลูกค้ารายอื่นหวาดกลัว และนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาซื้อบ้านพักอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต และทำธุรกิจท่องเที่ยว ทางเรือหรือทางทะเล และนำเงินมาฟอกผ่านเรือนำเที่ยว กิจการอู่รถ และลงทุนการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก สนามชนวัว สนามชนไก่ และเดินทางมา จ.พัทลุง เป็นครั้งคราว
และเมื่อ 29 ส.ค. 63 เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มือปืนลงมือก่อเหตุ ยิงที่หน้า ธกส.พัทลุง สาขาท่ามิหรำ ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย หนึ่งในนั้นคือนายรัตนพงศ์ จันปน หรือพง ซึ่งเคยถูกจำคุกด้วยกัน และขัดแย้ง เรื่องการค้ายาเสพติด และมีเรื่องทะเลาะกับนายเชาวลิตในเรือนจำ และต่อมามือปืนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 คน แต่ไม่ส่งมอบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 19.30 น. พงส.สภ.เมืองพัทลุง พร้อมชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.พัทลุง ตรวจสอบที่บริเวณ ป่าริมคลองชลประทาล หมู่ที่ 6 ต.นาโหนด อ.เมืองฯ กรณีพบศพ น.ส.จิราพร หรือก้อย เพ็ชรรัตน์ อายุ 25 ปี เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน สภาพศพมีรอยถูกทุบที่ท้ายทอย และมีบาดแผลตามลำตัว 5 แผล และจากการสืบสวนสอบสวน และสามารถจับกุมนายสุนันท์ หรือเจม จิตภักดี และ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย กลศึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเดียวกับบ้านของนายเชาวลิต ทองด้วง
