“บช.ก.” ลุยล้างบาง “เครือข่ายนอมินีต่างชาติ” ทำธุรกิจเถื่อนภูเก็ต อายัดทรัพย์กว่าพันล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ CIB Operation Nominee Sweep ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต พบชาวรัสเซียร่วมร้อยลักลอบเข้ามาทำธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือครองที่ดินมูลค่ากว่าพันล้านบาทผ่านนอมินีชาวไทย

Top news รายงาน วันที่ 31 พ.ค.2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัฯชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พ.ต.อ. กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติการปูพรมตรวจค้น เป้าหมาย4 แห่งในจ.ภูเก็ต เป็นบริษัทบัญชี 1 แห่ง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ซึ่งสืบสวนพบว่าถูกใช้อ้างอิงเป็นที่ตั้งในการ จดทะเบียนบริษัทรวม 35 บริษัท และ บริษัทขายอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ ซึ่งสืบสวนพบว่า ถูกใช้อ้างอิงเป็นที่ตั้งในการจดทะเบียนบริษัท 25 บริษัท พร้อมยึดของกลาง 9 รายการประกอบด้วย

 

"บช.ก." ลุยล้างบาง "เครือข่ายนอมินีต่างชาติ" ทำธุรกิจเถื่อนภูเก็ต อายัดทรัพย์กว่าพันล้าน

 

 

  • 1. สมุดบัญชีธนาคาร 225 เล่ม พบยอดเงินหมุนเวียนสำหรับจัดตั้งบริษัท 318,967,824.43 บาท
  • 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 245 รายการ จำแนกเป็น
    2.1 ห้องชุด จำนวน 196 ห้อง เนื้อที่รวมประมาณ 10,500 ตร.ม. ราคาประเมินประมาณ 1,000 ล้านบาท
    2.2 โฉนดที่ดิน 43 แปลง เนื้อที่รวม 24 ไร่ ราคาประเมินไม่รวมสิ่งปลูกสร้างประมาณ 200 ล้านบาท
  • 3.หนังสือเดินทาง 196 เล่ม
  • 4. เอกสารWork permit 108 เล่ม
  • 5. ข้อมูลการจัดตั้งบริษัท 800 บริษัท
  • 6. ตราประทับบริษัทต่างๆ 1,601 อัน
  • 7. ป้ายบริษัท 13 ป้าย
  • 8.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 4 เครื่อง
  • 9.เอกสารเกี่ยวกับบริษัท จำนวนหลายรายการ รวมมูลค่า ของกลางที่ตรวจยึดได้กว่า 1,500 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พร้อม จับกุม ผู้ต้องหา 231 ราย แยกเป็น นิติบุคคล 96 ราย บุคคลธรรมดา 135 ราย ซึ่งแยกเป็น ชาวรัสเซีย 67 ราย, ชาวจีน 4 ราย, ชาวยูเครน 3 ราย, ชาวอินเดีย 3 ราย และสัญชาติอื่นๆ อีก 21 ราย รวมทั้งสิ้น 98 ราย และ ชาวไทยอีก 37 ราย แจ้งดำเนินคดี ผิดมาตรา 37 แห่งพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติมาประกอบธุรกิจ และกว้านซื้อที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือนร้อน พลตำรวจโทจิรภพ จึงสั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ประสานงานกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.), กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมที่ดิน ฯลฯ ตรวจสอบข้อมูลและดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายดังกล่าว จากศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลกลาง กองบัญชาการตรวจสอบสวนกลาง (CIB DATA CENTER) กระทั่งพบข้อมูลว่า มีชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ลักลอบเข้ามาจดทะเบียนเปิดบริษัท เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บริการ และ นำเที่ยว และกว้านซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ประเภทอพาร์ทเม้นท์ และคอนโด เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองผ่านนอมินีชาวไทย จำนวนมาก ในห้วงปี 2559-2565

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จึงลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 231 ราย โดย ได้ออกหมายเรียก ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 85 ราย และเตรียมสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ถึงประเด็นการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ และที่ดิน สำหรับที่ดินที่ต่างด้าวได้มาโดยผิดกฎหมาย จะต้องเข้าสู่มาตรการบังคับให้จำหน่ายที่ดิน ภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด ซึ่งไม่น้อยกว่า 180 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าไม่จำหน่ายที่ดินภายในเวลาที่กำหนด ให้อธิบดีกรมที่ดินที่อำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น สำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นนอมินี ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว ถือเป็นความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงาน ผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จฯ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ป.อาญา ม.267 และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 111-113 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ลุยล้างบาง "เครือข่ายนอมินีต่างชาติ" ทำธุรกิจเถื่อนภูเก็ต อายัดทรัพย์กว่าพันล้าน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘พิชัย’ ร่วมถกรัฐมนตรีเอเปค พร้อมหนุนการค้าการลงทุนเชื่อมโยงกัน
ยูนิเซฟเปิดตัวแคมเปญ “Box of Life - กล่องช่วยชีวิต” ชวนคนไทยส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนสู่เด็กในภาวะวิกฤต
ให้ไต้หวันได้จับมือกับนานาประเทศในการรับมือความท้าทายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บทบาทจีนกับการขับเคลื่อนความร่วมมือเอเปค
‘ฟิล์ม’ ยืนยันเคารพ ‘หนุ่ม กรรชัย’ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปมตบทรัพย์ 20 ล้าน ลั่นไม่หนีไปไหน
บิ๊กโอ๋ ประชุมตรวจสำนวนการสอบสวนพร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องคดี "แอมไซยาไนด์"
“อนุทิน” ชี้ “ทักษิณ” ขึ้นเวทีหาเสียงนายกอบจ.ดูข้อกฎหมายแล้ว ไม่กระทบพรรคร่วม
แฉหมดไส้ “ทนาย ต.” พูดอะไรตอนเมา อึ้ง! “ทนายรัฐฉาน” ส่อเอี่ยวคลิปถุงดำ
“ภูมิธรรม” ชี้เป็นเรื่องดี “ทักษิณ” ช่วยหาเสียง เชื่อคนอุดรธานี ยังรักเพื่อไทย
ไวรัล .ส.นิวซีแลนด์เต้น “ฮากา” ขวางโหวตกฎหมาย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น