ยุบ “ก้าวไกล” ต้องโตก้าวกระโดด ชนะแลนด์สไลด์สถานเดียว ถึงได้เป็นรัฐบาล ไม่งั้นเสร็จ “พท.” จับมือแน่น “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ตั้ง “รัฐบาลผสม”

ยุบ “ก้าวไกล” ผวางูเห่าส้มหนีซบฝ่ายอนุรักษ์นิยม

มองข้ามสเต็ปกันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า หลังยุบพรรคก้าวไกล จะเป็นอย่างไร ฝ่ายตรงข้ามก้าวไกล ฟันเปรี้ยง! พร้อมตั้งคำถามไว้ชวนคิดว่า สส.ก้าวไกลทั้งหมดจะเฮโลกันไปสังกัดพรรคใหม่หรือไม่ หรือ จะมีบางส่วนเป็นงูเห่าส้มย้ายซบรังใหม่ , นายทุนพรรคซึ่งรู้กันดีในวงการการเมืองว่าเป็น “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า จะยังหนุนหลังพรรคใหม่เต็มร้อยหรือไม่? , การเมืองนอกสภา ที่พรรคก้าวไกลหนุนหลังจนทำให้สาวกต้องติดคุก แต่ไม่สามารถช่วยสาวกเหล่านี้ได้ จากการเข็น ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112 ที่มีแว่วว่าไปไม่รอด บรรดาสาวกที่เป็นกองเชียร์ยังจะหลงเชื่อ หรือ ถอดใจเลิกหนุนพรรคใหม่หรือไม่

เพราะสถานการณ์ยุบพรรคก้าวไกล ขณะนี้แตกต่างจากยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่มี “ธนาธร” สวมบทเป็นพระเอกเรียกคะแนนสงสารในขณะนั้น เป็นความผิดส่วนตัว ไร้ผลกระทบต่อคะแนนนิยมเพียงแต่กระทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม แต่ยุบพรรคก้าวไกลอันเนื่องมาจากมีเจตนายกเลิกมาตรา 112 ซึ่งมีผลกระทบต่อพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมพรรคใหม่ของพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน

สำทับเข้าไปอีกเมื่อรู้ว่า สส.ในพรรคก้าวไกลเองก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรา 112 เพียงแต่เข้าพรรคนี้เพราะต้องการขี่กระแสส้มฟีเวอร์ เพื่อให้ได้ฟลุ๊คเป็น “สส.” โดยไม่ต้องลงทุนใดๆ ยิ่งได้เห็นบทบาทฝ่ายค้านแบบพับเพียบค้าน โดยเฉพาะเรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเงียบกริบ ไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จนเกิดข้อกังขาว่า รอเสียบร่วมรัฐบาลหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย จนต้องกลับมาพึ่งพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่

ฝ่ายแค้นพรรคก้าวไกล บางกลุ่มถึงขนาด ทำนายล่วงหน้าได้เลยว่า จะมี สส.ส่วนหนึ่งไม่ย้ายไปอยู่พรรคใหม่ ที่มีนายทุนและแกนนำพรรคก้าวไกลเตรียมไว้ แต่อาจจะไปอยู่พรรคที่อยู่ในฝ่ายรัฐบาลสลายขั้ว โดยเฉพาะขนาดกลาง อาทิ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีโอกาสต่อรองผลประโยชน์ได้มากกว่าพรรคขนาดใหญ่ อย่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ยิ่งถ้าพลิกล็อค เกิดปรากฎการณ์ไม่คาดฝันเปลี่ยนม้ากลางศึก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ตกเก้าอี้จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปมไปแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” อดีตรัฐมนตรีมีตำหนิ

โอกาสที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีโอกาสที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่ว่า “นายใหญ่เพื่อไทย” จะไฟเขียวดันก้นใคร หากต้องจนมุม ในเมื่อทายาททางการเมือง “อุ๊งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร ยังไม่พร้อมลงทุ่งสังหารทางการเมืองในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือ “ชัยเกษม นิติสิริ” มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถฝืนสังขารก้าวขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับ พรรคเพื่อไทย ได้ จำต้องใช้บริการ 1 ใน 2 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลสลายขั้ว