บรรดานักวิเคราะห์และเอ็กซิต โพลล์ ต่างทำนายผลเลือกตั้งทั่วไปในอินเดียไปในทางเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีโมดี จะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปอย่างถล่มทลาย ทว่าเมื่อผลการนับคะแนนใกล้เสร็จสิ้น ส่อเค้าว่าพรรค “ภารติยะ ชนตะ” (ชะ-นะ-ตะ) หรือ BJP ของโมดี จะไม่สามารถรักษาเสียงส่วนใหญ่ไว้ได้แบบพรรคเดียว เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งหมายความว่าจำเป็นที่พรรคชาตินิยมฮินดู “บีเจพี” จะต้องพึ่งพาพันธมิตรในการตั้งรัฐบาลผสม ขณะที่พรรคฝ่ายค้านหลักอย่าง คองเกรส ภายใต้การนำของ ราหุล คานธี ทำได้ดีเกินคาด ได้ที่นั่งเพิ่มเกือบเท่าตัว
การเลือกตั้งในปี 2557 และ 2562 บีเจพี กวาดที่นั่งส่วนใหญ่ได้สำเร็จ แต่ใช้พรรคพันธมิตรเพื่อขยายเสียงส่วนใหญ่ในสภา การเลือกตั้งครั้งนี้ โมดีที่หวังกลับมาครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียเป็นสมัยที่สามติดต่อกันซึ่งหาได้ยาก ยังตั้งเป้าไว้สูงว่า พันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ นำโดยพรรค บีเจพี จะกวาด 400 ที่นั่งจากทั้งหมด 543 ที่นั่ง
ผลการตรวจนับคะแนนที่ผ่านมาถึง 95% แล้ว อย่างไม่เป็นทางการ พรรค บีเจพี ได้มา 36.9 % ต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2562 ส่วนนายโมดี แม้ชนะเลือกตั้งในเมืองพาราณสี โดยทิ้งห่างคู่แข่ง 1 แสน 5 หมื่น 2 พันคะแนน แต่เมื่อเทียบกับเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อน โมดีนำโด่งเหนือคู่แข่งถึงกว่า 5 แสนคะแนน
ตัวเลขจากคณะกรรมการเลือกตั้งอินเดีย ชี้ว่า พรรคบีเจพี และพรรคพันธมิตร น่าจะกวาดได้อย่างน้อย 292 ที่นั่งจากทั้งหมด 543 ที่นั่ง มากพอกุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่พรรค บีเจพี ได้มา 240-241 ที่นั่ง ลดลงจากเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ได้ 303 ที่นั่ง ส่วนพรรคคองเกรส ได้เพิ่มจาก 52 เป็น 98 ที่นั่ง
ด้านหน้าที่ทำการพรรค BJP ของนายโมดี มีผู้สนับสนุนไปชุมนุมเฉลิมฉลอง แม้ยังไม่ทราบผลคะแนนทั้งหมด แต่ที่หน้าพรรคคองเกรส ในนิวเดลี แม้จะแพ้อีกครั้ง แต่ก็เต็มไปด้วยความยินดีกับผลงานที่พรรคทำได้
จากความเห็นนักวิเคราะห์หลายคน โดยสรุปรวมชี้ว่า ผลเลือกตั้งที่ผิดไปจากที่ บีเจพี คาดหวังนั้น มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ตั้งแต่ราคาข้าวของที่แพงขึ้น ปัญหาว่างงาน การหาเสียงก้าวร้าวและจุดความแตกแยกของโมดี ที่อาจทำให้ผู้สนับสนุนจำนวนไม่น้อยตีตัวออกห่าง ความวิตกในเรื่องเหล่านี้สะท้อนผ่านผลสำรวจหลายครั้งก่อนเลือกตั้ง นอกจากนี้ สโลแกนที่ฝ่ายรัฐบาลประกาศตั้งเป้า จะครอง 400 ที่นั่งในสภาฯ อาจเป็นกระแสตีกลับ เพราะคนกลัวว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำได้ง่าย ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่มากมายขนาดนั้น
ผลเลือกตั้ง ฉุดหุ้นอินเดียปรับตัวลดลง จากกระแสคาดการณ์ว่า เสียงส่วนใหญ่ที่ลดลง อาจเป็นอุปสรรคในการผลักดันนโยบายปฏิรูปของพรรคบีเจพี หุ้นในกลุ่ม อดานี เอนเตอร์ไพรส์ ของมหาเศรษฐี กัวตัม อดานี พันธมิตรของนายโมดี ก็ดิ่งวูบ 25% เช่นกัน ก่อนฟื้นตัว
การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์ 66.3% จากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง 968 คน ลดลงราว 1% จากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2562 นักวิเคราะห์โทษว่า สภาพอากาศร้อนจัดโดยเฉพาะทางเหนือของอินเดีย น่าจะมีส่วนให้คนออกไปใช้สิทธิ์ลดลงเล็กน้อย