ข่าวที่น่าสนใจ
แว่วข่าวว่าคำแถลงชี้แจงจะยืนกรานว่าพรรคไม่มีเจตนา และ ความผิดยังไม่สำเร็จไม่สามารถยุบพรรคไปได้โดยอัตโนมัติ ตามที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เคยมีคำวินิจฉัยไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคมปีก่อน เพราะแค่ระบุว่ามีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองฯ และ “พรรคก้าวไกล” ได้หยุดการกระทำสิ่งต้องห้ามดังกล่าวไปแล้ว และแม้ว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” รวบรวมพยานหลักฐานชงเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมูญ” สั่งยุบพรรคก็ตาม
แม้ “พรรคก้าวไกล” จะทำใจดีสู้เสือทำปากแข็งว่า คดียุบพรรคไม่ทำให้เสียสมาธิ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย “พรรคอนาคตใหม่” นั่นคือ โดนยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคยกแผง แต่ใจลึกๆ ทั้งเจ้าของพรรค “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า แกนนำ และ สส.พรรคก้าวไกล ทำใจไว้ล่วงหน้า จึงเตรียมตั้งพรรคสำรองเอาไว้รอท่า
โดยเฉพาะประเด็นที่จะซ้ำรอย “พรรคอนาคตใหม่” ซึ่งกลัวหนักหนา นั้นคือ “งูเห่าส้ม” น่าจะมีแน่นอน แต่คำถาม คือ จะมากเป็นฝูงใหญ่ หรือ จะน้อยนิดไม่กี่ตัว ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า สส. 150 คน ยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่ออุดมการณ์พรรคทั้งหมดทุกคน หากเมื่อถึงนาทีโดนยุบพรรคเข้าจริง ๆ จะยังเหลือ สส.กี่คนที่ไปสังกัดพรรดสำรอง
ขณะที่สถานการณ์ภายในพรรคก็ระส่ำหวั่นไหวหวาดผวาพรรคคู่แข่งจะมาช้อปปิ้ง “งูเห่าส้ม” หลังพรรคแพแตก โดยเฉพาะ สส.ที่ขี่กระแสส้มฟีเวอร์พาเหรดกันเข้าสภามาได้ กลุ่มสส.เหล่านี้ไม่ได้เป็น สส.หรือนักการเมืองมืออาชีพ ไม่มีฐานเสียง หรือ มีหัวคะแนนฝังตัวอยู่ในการเมืองระดับท้องถิ่น ล้วนแล้วเป็น สส.หน้าใหม่ เข้าสภามาได้เพราะฟลุ๊ค! จึงอาจแปรพักตร์หากมีเงินมาล่อ
เพราะครั้งหนึ่งสื่อจิ้มไมค์ถาม “ชัยธวัช” ว่ากังวลหรือไม่หากมีการยุบพรรคก้าวไกลจะมีการซื้อตัว สส. ไปจากพรรค “ชัยธวัช” ตอบทันทีพร้อม หันไปมองหน้า สส.พรรคก้าวไกล ที่ยืนเป็นวอเปอร์เปอร์อยู่ด้านหลัง พร้อมระบุว่า ก็ต้องถาม ส.ส. ตนก็ไม่รู้ แต่คิดว่าได้เห็นจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คนที่ออกจากพรรคก้าวไกลไปสอบตกหมด คนที่ยังอยู่กับพรรคสามารถกลับมาได้หมด
ณ นาทีนี้ “ชัยธวัช” ต้องไปยืนประจันหน้ากับ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพียงลำพังในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องแสดงอากัปกิริยาฮึกเหิมเข้าไว้ จึงไม่แปลกเหตุใด ระดับผู้นำสูงสุดแห่งพรรคก้าวไกล “ธนาธร” “ชัยธวัช” และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ถึงยังอุบไต๋ชื่อพรรคใหม่เอาไว้ เพราะกลัวผลกระทบเชิงจิตวิทยาทางการเมืองว่า หากเปิดชื่อพรรคใหม่ไปแล้ว จะทำให้ สส.ก้าวไกลใจฝ่อ เดี๋ญวจะตีความไปกันใหญ่ว่า เป็นการส่งสัญญาณยกธงขาว ใช่หรือไม่
ขณะที่บรรดาคอการเมืองเดาทางกันว่า หวยจะออกเลขอะไร ระหว่างเสียงข้างมากกับเสียงข้างน้อยของ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค เก็งข้อสอบกันว่า “ชัยธวัช” น่าจะแก้ต่างหน้าบัลลังก์ ไปใน 3 ทิศทางก็เป็นได้ คือ 1.“พรรคก้าวไกล” ไม่ได้มีเจตนาจงใจล้มล้างการปกครองฯ 2.“พรรคก้าวไกล” ได้ส่งนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ให้ “กกต.” พิจารณาก่อนไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ กกต.ไม่คัดค้านสอดคล้องกับข้อ 1 “พรรคก้าวไกล” ไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครองฯ หรือ 3.นับตั้งแต่คำวินิจฉัย “ศาลรัฐธรรมนูญ” ออกมา เมื่อวันที่ 31 มกราคมปีก่อน ที่สั่งให้ยุติการกระทำล้มล้างการปกครองฯ ทาง “พรรคก้าวไกล” ปลดนโยบายแก้มาตรา 112 พ้นเว็ปไซด์พรรคไปแล้วยอมศิโรราบต่อคำสั่งดังกล่าว “ศาลรัฐธรรมนูญ” จึงควรไว้ชีวิต “พรรคก้าวไกล” ไม่ควรลงดาบสองประหารพรรคให้ต้องตายหมู่
ดังนั้นนับถอยหลังไว้ได้เลยตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนนี้ ลุ้นระทึกกันทั้งพรรคว่า 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะนัดพิจารณาเมื่อไร และ จะเรียกพยานมาสอบเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้หลักฐานรัดกุม เพราะอย่าลืมว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งก่อน ศาลรัฐธรรมนูญลงมติเป็นเอกฉันท์ ดังนั้นหาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะต้องฟันดาบสองซ้ำ ชี้เป็นชี้ตาย “พรรคก้าวไกล” ระหว่าง โทษประหาร หรือ ไว้ชีวิต น่าจะต้องเป็นเอกฉันท์ด้วยเช่นกันหรือไม่
บรรดาเซียนการเมืองต่างคาดการณ์กันว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” น่าจะนัดฟังคำสั่งชี้ชะตา “พรรคก้าวไกล” ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ผลอาจออกมาได้ 2 ทาง คือ รอดตายไม่โดนยุบพรรค “ศาลรัฐธรรมนูญ” คล้อยตามคำแก้ต่างของ “พรรคก้าวไกล” ว่าไม่ได้เจตนาล้มล้างการปกครอง หรือ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะช่วยตอกฝาโลง “พรรคก้าวไกล” เซาะกร่อนบ่อนทำลายให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง เข้าลักษณะของการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน ดังนั้น “พรรคก้าวไกล” จะได้หยุดทำไขสือทำเป็นไม่เข้าใจว่าอะไรคือ ล้มล้างการปกครองฯเสียที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
