โดนแจ้ง 3 ข้อหาหนัก “ส.ต.อ.” มือยิงหนุ่มเมียนมา ดับคาโรงพยาบาล

แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ส.ต.อ. มือยิงหนุ่มเมียนมาดับคา รพ. สารภาพอ้างไม่พอใจผู้ตาย ที่ชอบก่อกวนพ่อตัวเองที่รนอนรักษาอยู่ใน รพ.เหมือนกัน

Top news รายงาน เวลาประมาณ 12.30 น.วันนี้ (8 มิถุนายน 2567) ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมให้สัมภาษณ์ กรณีที่ ส.ต.อ.วีระพงษ์ บัวเย็น อายุ 34 ปี หรือ เต๊ก ตำรวจ สภ.พระยืน มือปืนยิง นาย จอ ชอ อ่อง ( Kyaw Swar Aong) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตในโรงพยาบาล ก่อนญาติพาเข้ามอบตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3. ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังเข้ามอบตัว พบว่า ผู้ต้องหามีอาการเครียด และสับสน แต่ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนยิงหนุ่มเมียนมาจริง โดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพียงแค่เจอกันครั้งแรก ก็รู้สึกว่าหนุ่มเมียนมา มีลักษณะกวน จึงไม่ชอบหน้า ก่อนใช้อาวุธปืน ยิงศีรษะ 1 นัด โดยไม่รู้ว่าตัวเองทำแบบนั้นไปทำไม

 

 

 

 

จากการสอบสวนญาติทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปเยี่ยมพ่อ ที่ป่วยและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลขอนแก่น ที่อาคาร 5 ชั้น 5 พักรักษาที่เตียงใกล้กับหนุ่มเมียนมา และถูกหนุ่มเมียนมาก่อกวน จากนั้นหนุ่มเมียนมาก็ถูกย้ายไปพักรักษาตัวที่อาคาร 6 ชั้น 5 รอการผ่าตัด จึงเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะได้ยินเสียงบ่นจากพ่อว่า ถูกหนุ่มเมียนมากวนจนไม่ได้พักผ่อน จึงเกิดโมโห เดินไปยังอาคาร 6 ชั้น 5 แล้วก่อเหตุดังกล่าว

ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหายังสับสน ขณะสอบสวนก็มีอาการเครียด และนิ่งนานจึงจะตอบคำถามได้ และไม่ยินยอมให้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึด รถยนต์ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุและอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บ้านพัก ในพื้นที่บ้านโนนคุต หมู่ที่ 8 ตำบลโพนเพ็ก อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น

 

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหา ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานแล้ว ต้องพบแพทย์รับยาทานประจำ แต่ก็ทำหน้าที่ตัวเอง ก่อนจะก่อเหตุ ขาดยามาสักพักแล้ว ในขณะเดียวกันหลังจากควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พนักงานสอบสวน ก็จะส่งตรวจร่างกายในโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย  ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ก็ถูกแจ้งข้อหาตามหมายจับ ซึ่งเมื่อข้าราชการ ก่อเหตุอาชญากรรม ก็จะถูกดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง  เบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต
รัฐบาลเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง แก้ตั๋วเครื่องบินแพงช่วงปีใหม่
เปิดใจเจ้าของป้ายสุดแปลก "รับซื้อบ้านผีสิง" ยันซื้อจริง ไม่คอนเทนต์
“บิ๊กโจ๊ก” รอฟ้าเปิด ความจริงปรากฎ-คัมแบ็คตร. เจ็บมาเยอะแค่นี้ไม่สะเทือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น