เปิดใจ หนุ่มวัย 23 เล่าละเอียดถูก “ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล” บุกอุ้มขึ้นรถรีดเงิน 1 ล้าน

หลังตำรวจจับกุม นายบรรณสิทธิ์ รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วน นายกริชชัย และ นายจี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า ทั้ง 3 รายกระทำผิดร่วมกัน อีกทั้งยังพบประวัติว่ากลุ่มคนร้ายเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุด (12 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตาทิพย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อพูดคุยกับ นายตระการ โภชน์สาลี ผู้เสียหาย อายุ 23 ปี โดย นายตระการ เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนอยู่ที่ร้านขายของ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ขับรถมาจอดที่หน้าร้านก่อนทำทีเข้ามาพูดคุยแล้วพาตนไปขึ้นรถทันที จากนั้นชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบเรื่องการลักลอบขายใบกระท่อม ก่อนพูดข่มขู่ว่าถ้าหากไม่อยากถูกดำเนินคดีจะต้องยอมจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท

นายตระการ บอกอีกว่า หลังแฟนสาวรู้ว่าตนถูกอุ้ม ด้วยความกลัวจึงนำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุรินทร์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ให้ช่วยสกัดจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนที่จะสกัดจับได้ที่ จ.นครราชสีมา พร้อมให้ความช่วยเหลือตนจนปลอดภัย

มีรายงานว่า วันเดียวกัน นายเชตวัน เตือประโคน สส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ว่า กรณี นายบรรณสิทธิ์ วงษ์นาค อ้างเป็นผู้ช่วย สส.ของผม กระทำความผิด ถูกจับกุมข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ตามที่ปรากฏทางออนไลน์นั้น

ผมต้องขอโทษผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของ นายบรรณสิทธิ์ รวมถึงขอโทษผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในแง่ข้อเท็จจริงขอชี้แจงว่าบุคคลคนนี้ไม่ได้เป็นผู้ช่วย สส.ของผม ไม่ได้มีตำแหน่งในกรรมาธิการใดๆ เป็นเพียงคนทำงานในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในช่วงการทดลองงาน การมีพฤติกรรมตามที่ถูกจับกุม ไม่ได้เป็นการสั่งการของผม และผมไม่เคยรับรู้มาก่อนแต่อย่างใด