ข่าวที่น่าสนใจ
เหตุผลที่ดิ้นกันพล่าน! เพราะเป็นร่างกฎหมายของพวกตัวเอง ที่มีแนวคิดเชิงลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด เพราะลูกสมุนยันหัวขบวนที่เป็นแนวร่วมตัวเองกำลังโดนคดีขาแหย่คุก! บางรายคดียาวเฟื้อย! หรือ เสียวสันหลังว่าตัวเองต้องกระเด็นตกเก้าอี้ สส.อำนาจหลุดมือ
โดยเฉพาะ “รองอ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ออกอาการชัดมาก รับไม่ได้กับผลสำรวจ ทั้งที่พวกตัวเองเป็นคนชงเรื่อง นั้นคือ “พูนสุข พูนสุขเจริญ” ทนายความจาก “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” สู้คดีให้กับขบวนการ 3 นิ้วที่ติดคดี 112 ถึงกับสั่งให้ไปลากคอ IO ว่าเป็นใครถึงมาเผือกปั่นผลสำรวจตีแสกหน้า “ก้าวไกล” การกระทำเช่นนี้ของ “รองอ๋อง” ถือว่าสอบตกในความเป็นกลางทางการเมือง ในฐานะรองประธานสภา และ คงผิดหวังหนักที่ขบวนการ 3 นิ้ว ที่มั่นอกมั่นใจว่าช่ำช่องการเมืองในโลกโซเซียล จะเฮโลกันมาทุบสถิติผลสำรวจหนุนนิรโทษกรรมคดี 112 ให้พุ่งกระฉูด 100% แต่ที่ไหนได้ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ไม่ชังชาติล้มสถาบัน พาเหรดกันออกมาสั่งสอน “ก้าวไกล” กับขบวนการ 3 นิ้ว โดยมิได้นัดหมาย
ซ้ำเติมเข้าไปอีก ในวันที่ 18 มิถุนายนนนี้ นัดชี้ชะตากรรม “ก้าวไกล” จะโดนยุบพรรควันไหน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สะทกสะท้าน ก่อนหน้านี้เคยมั่นหน้าจ้อสื่อต่างประเทศว่า “ยุบพรรคจะทำให้ก้าวไกลอ่อนแรงลงในระยะสั้น แต่จะ “ติดเตอร์โบ” ก้าวไกลในระยาว” จริงอย่างที่ “พิธา” คุยฟุ้งหรือไม่ ต้องให้กูรูการเมืองระหว่างประเทศออกมาเบิกเนตร นั้นคือ “สุทิน วรรณบวร” ชำแหละให้ฟังว่า
แนวโน้มจากสถานการณ์การเมืองโลกจะพบว่า ความนิยมต่อคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้ากำลังเสื่อมถอยลงไปอย่างน่าใจหาย ในเวลาเดียวกันความนิยมการเมืองฝ่ายขวาหรืออนุรักษ์นิยมก้าวหน้ากำลังหวนคืนมา ประเทศฝรั่งเศส ต้นแบบปฏิวัติของ “ก้าวไกล” ความนิยมทางการเมืองฝ่ายขวามาแรงจนประธานาธิบดี เอ็มมานูเอลมาครง ต้องยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่รอบแรกวันที่ 30 มิถุนายน นี้
“พรรคก้าวไกล” ซึ่งเป็นมรดกตกทอด “พรรคอนาคตใหม่” ที่ยึดถือปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นสรณะและใช้ยุทธวิธีสร้างความนิยมแบบแนวคิดปฏิวัติส้มของประธานาธิบดี เซเลนสกี แห่งยูเครน และปฏิวัติร่มในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่มีตะวันตกหนุนหลังทางยุทธวิธีและปัจจัย “เซเลนสกี” ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งปัจจัยยุทธวิธีถึงวันนี้ การปฏิวัติส้มยูเครน และปฏิวัติร่มในฮ่องกงกำลังล่มสลาย แกนนำมวลชนนับร้อยคนรวมทั้งนายทุนสื่อผู้สนับสนุนปฏิวัติร่มอย่าง “จิมมี่ ไล” ติดคุกติดตะรางในความผิดขบถล้มล้างการปกครองและอีกหลายร้อยคนหนีคุกไปตายเอาดาบหน้าในต่างประเทศ
“พรรคอนาคตใหม่” ซึ่งถอดแบบมาจากปฏิวัติร่มฮ่องกง แต่การปลุกระดมล้างสมองมวลชนแตกต่างกันตรงที่เป้าหมายปฏิวัติประชาชนของอนาคตใหม่ มุ่งไปที่สถาบันหลักของชาติ แกนนำมวลชนของอนาคตใหม่ที่กลายเป็นพรรคก้าวไกลจึงมุ่งเป้าการโจมตีทำลายไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันแกนนำมวลชนก้าวไกลเปลี่ยนไปแล้วสามรุ่น รุ่นแรก มีเพนกวิน อานนท์ นำภา ไผ่ ดาวดิน และรุ้ง-ปนัสยา บางคนติดคุกบางคนถูกดำเนินคดีหลายคนหนีไปต่างประเทศ และแกนนำมวลชนรุ่นแรกเฟดเอ้าท์ ออกจากการเคลื่อนไหว แกนนำมวลชนรุ่นที่สองหลายคนถูกดำเนินคดีเสียชีวิตก็มี และหนีไปต่างประเทศก็หลายคน ส่วนแกนนำมวลชนรุ่นที่สามใช้สภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ปกป้อง หรือถ่วงเวลาการลงโทษคดีอาญามาตรา 112 กล่าวโดยรวม คือ มวลชนและผู้สนับสนุน “ก้าวไกล” ร่อยหรอลงทุกวัน จึงคาดการณ์ได้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลจะมี สส.จำนวนมากไหลไปอยู่พรรคอื่นที่ไม่เสี่ยงต่อการติดคุกในอนาคตจึงมองไม่ออกว่า พรรคก้าวไกลจะชนะเลือกตั้งครั้งต่อไปแบบถล่มทลายได้อย่างไร
นี่คือชะตากรรมที่ “ก้าวไกล” ต้องเผชิญในอนาคต แม่นราวตาทิพย์ตามที่ กูรูการเมืองทำนาย หรือไม่ อีกไม่นานเกินรอได้รู้กัน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
