ศาลอาญา อ่านคำฟ้องพฤติการณ์ ผิดคดี 112 “ทักษิณ” ปฏิเสธไม่ได้หมิ่นเบื้องสูง

ศาลอาญา อ่านคำฟ้องพฤติการณ์ ผิดคดี 112 "ทักษิณ" ปฏิเสธไม่ได้หมิ่นเบื้องสูง

ศาลอาญา อ่านคำฟ้องพฤติการณ์ ผิดคดี 112 “ทักษิณ” ปฏิเสธไม่ได้หมิ่นเบื้องสูง

วันที่ 18 มิ.ย. 67 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นำตัว นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย สื่อของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน มายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา และศาลประทับรับฟ้อง ก่อนให้ประกันตัว ภายหลังทนายยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว วงเงิน 500,000 บาท ให้จำเลยวางหนังสือเดินทาง ห้ามออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาต

สำหรับคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุในคดีนี้และในปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดหรือจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยพระมหากษัตริย์ขณะเกิดเหตุคดีนี้คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ส่วนพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล 10

 

ทักษิณ

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2558 เวลากลางวัน, ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ด้วยการร่วมกันใช้อุปกรณ์ที่มีระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อื่นด้วยกันได้และอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วโพสต์ข้อมูล ภาพ ข้อความ และตัวอักษร ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชน ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ลงในแอปพลิเคชั่น YouTube กับแอปพลิเคชั่น Facebook ดังกล่าวผ่านระบบสัญญานอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์

โดยจำเลยได้พูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าวโชซอนมีเดียที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยสำนักข่าวโชซอนมีเดียมีเว็ปไซต์ข่าว www.Chosun เพื่อใช้ในการเผยแพร่ข่าว และจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันนำคลิปวิดีโอถ้อยคำ การพูดให้สัมภาษณ์ของจำเลยในชื่อ ” คลิป ทักษิณให้สัมภาษณ์ทิ้งบอม เบื้องหลัง ยืดอำนาจ อัดสุเทพ บิ๊กทหาร องคมนตรี “เผยแพร่ที่เว็บไซต์ YouTube โดยใช้ชื่อ www.youtube.com/watch?v=tar/yCmbvABgo โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า “news viv ความยาว 1.32 นาที และเผยแพร่ที่เว็บไซต์ facebook ชื่อบัญชี “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ปรากฏตาม https://www.focebook.com/ stopfakethailand 2fref=ts

อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล ข้อความ และตัวอักษรที่จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าวโชซอนมีเดียในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีดังกล่าวเข้าใจว่าสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และเข้าใจว่าการยึดอำนาจ รัฐประหารเป็นเรื่องที่ทหารได้รับคำสั่งมาจากในวัง พระมหากษัตริย์ออกมาช่วยในการทำรัฐประหารและอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร

ทั้งนี้ ราชอาณาจักรไทยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อความดังกล่าวเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่นด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทยเป็นเหตุให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียงและเป็นการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำมิบังควรจาบจ้วงล่วงเกินดูหมิ่น หรือกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสีย พระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเหตุเกิดที่ เมืองกรุงโซล สาธารณรัฐกาหลี และที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครและทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน

ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ถูกควบคุมตัวโดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมา หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโจทก์ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

จำเลยนี้เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม 9/2551 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุก 4 ปี โดยจำเลยจะพ้นโทษคดีดังกล่าว ในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ขอศาลนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้เรียงติดต่อกันกับโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวด้วย

ศาลพิจารณาเเล้วประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1860/2567 โดยศาลอ่านเเละอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังเเล้วจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น