logo

ปอศ.ขีดเส้นส่งฟ้องคดีเรือขนน้ำมันเถื่อนใน 6 เดือน เร่งขยายผลเอาผิดเจ้าของเรือ-ผู้บงการ

ปอศ. เร่งสรุปสำนวนคดีน้ำมันเถื่อน คาดส่งฟ้องอัยการได้ภายใน 6 เดือน พร้อมขยายผลเอาผิดเจ้าของเรือและผู้บงการ

ปอศ.ขีดเส้นส่งฟ้องคดีเรือขนน้ำมันเถื่อนใน 6 เดือน เร่งขยายผลเอาผิดเจ้าของเรือ-ผู้บงการ – Top News รายงาน

จากกรณีที่มีความเห็นจากพนักงานอัยการสูงสุดว่าการดำเนินคดียึดเรือน้ำมันเถื่อนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. อาจทำได้ยากเพราะพื้นที่จับกุมเป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ

พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ยืนยันว่า จุดที่จับกุมเรือน้ำมันเถื่อนของกลางได้นั้น เป็นพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ อยู่ห่างออกจากเส้นฐาน 80 ไมล์ทะเล หากอยู่อยู่ในพื้นที่น่านน้ำไทย จะห่างเพียง 12 ไมล์ทะเล ทำให้คดีนี้ถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะฉะนั้นอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดีจะเป็นของพนักงานอัยการสูงสุด แต่จะมีตำรวจเข้าร่วมสอบสวนด้วย

จากการจับกุมผู้กล่าวหา ตำรวจมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า มีขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน โดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายในพื้นที่นอกราชอาณาจักร จึงได้แจ้งไปทางศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปมน.ตร. ให้ทราบ ก่อนที่จะมีคำสั่งให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง ทั้ง ปอศ., กองบังคับการตำรวจน้ำ และกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันสืบสวนดำเนินคดีเรื่องนี้

 

ปอศ.

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการจับกุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา พบการกระทำความผิด 2 จุด ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จุดแรก ประกอบด้วยเรือ เจพี โชคบุญชู และ กำไลเงินเหล็ก เจ้าหน้าที่พบน้ำมันเถื่อนในเรือเจพี โดยมีเรืออีกสองลำขนาบข้าง / จุดที่2 เจอเรือดาวรุ่ง และ ซีฮอต ซึ่งเรือซีฮอตพบน้ำมันเถื่อนอยู่ เมื่อสอบถามถึงที่มาของน้ำมันเถื่อน กลับไม่ได้รับคำตอบ แต่พบว่า 3 ใน 5 ลำ คือ เจพี ดาวรุ่ง และซีฮอต มีคนสั่งการคนเดียวกัน ซึ่งทราบภายหลังว่า คือ นายเล็ก แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชื่อ-สนามสกุล และรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งบุคคลนี้ก็เป็นคนที่บงการให้ลูกเรือ ขโมยเรือของกลางหลบหนี ส่วนเรือที่เหลืออีก 2 ลำ นั้น มีผู้สั่งการอีกกลุ่มนึง

อีกทั้งตำรวจมีข้อมูลจากชุดสืบสวนคดีน้ำมันเถื่อน ที่เคยจับกุมขบวนการน้ำมันเถื่อนก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง โดยผู้ต้องหาให้การว่า ซื้อน้ำมันเถื่อนจากจุดซื้อขายน้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปตรวจสอบจุดดังกล่าว และพบการกระทำความผิด ซึ่งส่วนนี้ทำให้มั่นใจว่า การสืบสวนมีหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด ที่จะเข้ามาประกอบในสำนวนค่อนข้างชัดเจน จึงปรึกษากับทางพนักงานอัยการสูงสุด โดยอัยการแนะนำให้ไปสอบปากคำหนึ่งหน่วยงานเพิ่มเติมเท่านั้น นั่นหมายความว่า ตอนนี้ข้อมูลค่อนข้างจะสมบูรณ์ระดับนึงแล้ว และจะเร่งทำสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน

พ.ต.อ.ชัชวาล ยังเปิดเผยอีกว่า เรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ ที่จับกุมได้ มีเพียง 1 ลำ ที่เป็นเรือไทยมีทะเบียนถูกต้อง ส่วนอีก 4 ลำเป็นเรือเถื่อนทั้งหมด แบ่งเป็น เรือโชคบุญชู เป็นเรือไทย มีทะเบียนรู้ตัวเจ้าของ ส่วน เรือกำไลเงินเหล็ก และ เรือเจพี มีข้อมูลว่า ขายให้คนมาเลเซียไปพร้อมกัน เมื่อขายให้ชาวต่างชาติเจ้าหน้าที่จึงเพิกถอนทะเบียน โดยจากข้อมูลยังพบว่า ชาวมาเลย์ คนนี้ออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว

ขณะที่อีก 2 ลำ คือ เรือดาวรุ่ง และ ซีฮอต เป็นเรือเถื่อนไม่มีทะเบียน ไม่ปรากฏชื่อว่า เป็นของใคร แต่ในทางสืบสวนรู้ตัวคนที่คาดว่า เป็นเจ้าของแล้ว โดยพบข้อพิรุธ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยเรียกเจ้าของเรือที่มีทะเบียน รวมถึงกลุ่มคนที่คาดว่าครอบครองเรือเถื่อนมาสอบปากคำ แต่ก็ไม่มีใครมาให้ข้อมูล ทำให้คาดว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการติดตามจับกุม เสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อน จะสามารถขยายผลมาถึงเรื่องเรือเถื่อนกลุ่มนี้ได้หรือไม่ นั้น กรณีดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องเอกสาร ส่วนการสืบสวนจะเป็นหน้าที่ของกองบังคับการปราบปราม ที่จะหาหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน รวมถึงหลักฐานทางเทคโนโลยี ว่า จะเชื่อมโยงกับใครบ้าง

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ชี้เคส "ชาญ" ยึดตามกม. ยันไม่รู้จักส่วนตัว
เฮอริเคนเบริล ถล่มแคริบเบียน
ยูเครนมีเวลา1เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
เช็กด่วน "ธนาคาร" ปิดปรับปรุงระบบ ก.ค. 2567 ทำธุรกรรมไม่ได้
สายการบินแห่งชาติเยอรมันระงับเที่ยวบินไปเลบานอน
“ชาญ” ลั่นยังไม่ได้เป็นนายก อบจ. จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ยังไง
"ภูมิธรรม" ชี้ "ชาญ" ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องรอคำสั่งศาล "กฤษฎีกา" แค่ความเห็นข้อกม.
"เลขากฤษฎีกา" แจงเหตุ ถ้า "ชาญ" ย้อนรับตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
ตร.เร่งล่าตัว 23 คนร้าย กระหน่ำยิงคู่อริ กลางแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง
กระทรวงดีอี เปิดตัวโครงการ SIKHIO SMART LIVING ยกระดับความปลอดภัย การบริการภาครัฐ และการบริหารจัดการข้อมูลของเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น