สาวใหญ่ร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกญาติกักขัง ทารุณจนตาบอด แอบเอาบัญชีธนาคารใช้โกงผู้อื่น จนต้องติดคุก

สาวใหญ่วัย 47 ปี เลิกกับสามีไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติห่างๆ ใช้ชีวิตเพียงลำพัง ช่วยญาติขายอาหาร แต่กลับถูกญาติกักขังทารุณกรรมจนตาบอด แถมยังแอบเอาบัญชีธนาคารไปใช้โกงผู้อื่น จนทำให้เธอต้องติดคุก

สาวใหญ่ร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกญาติกักขัง ทารุณจนตาบอด แอบเอาบัญชีธนาคารใช้โกงผู้อื่น จนต้องติดคุก – Top News รายงาน

ทารุณจนตาบอด

 

วันนี้ (20 มิ.ย.67) เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา  นางสาวศรีนวล ชุ่มจิตร อายุ 47 ปี กับนางสาวศุภากร เชยกลิ่น หรือแอร์ อายุ 30 ปี ลูกสาว เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังนางสาวศรีนวล ผู้เป็นแม่ ถูกญาติทำร้ายจนตาบอด ในพื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และต้องติดคุกจากการถูกแอบนำบัญชีธนาคารไปโกงเงินคนอื่น

นางสาวศรีนวล เล่าว่า เธอทะเลาะกับสามี ในปี 2560 และได้ย้ายไปอยู่กับญาติชื่อ หนูเล็ก อายุ 37 ปี (ผู้กระทำความผิด) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไปช่วยขายหมึกย่าง ช่วงแรกที่ขาย ค่อนข้างรายได้ดี แต่หลังๆ เริ่มขายไม่ได้ตามเป้า ก็ได้ต่อว่า และทำร้ายร่างกาย แต่ตนเองก็ทนได้ ต่อมาในปี 2561 นางหนูเล็ก ได้ย้ายที่อยู่ไปจังหวัดชัยนาท ไปขายลูกชิ้นตามตลาดนัด คราวนี้ พอตนเองทำอะไรช้าไม่ถูกใจ ก็จะถูกทำร้ายหนักขึ้น ถึงขั้นใช้รองเท้าตบหน้า ใช้ไม้ตีตามตัว เอาลูกมะพร้าวทุบหัว ใช้ไม้แขวนฟาด ใช้ไฟฟ้าชอร์ต หนักสุดใช้ไม้เบสบอลตีหน้า จนฟันหักไปหลายซี่

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังตนเองโดนซ้อมแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้สายตาเริ่มพร่ามัว จนกระทั่งเมื่อ ปลายปี 2563 ตาบอดสนิท มองไม่เห็น ช่วยเขาขายของไม่ได้ นางหนูเล็กจึงทิ้งให้อยู่ที่ห้องเช่าเพียงลำพัง จะใช้คนเอาข้าวมาให้แค่วันละ 1 มื้อ หลังจากนั้นก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย โชคดีที่มีผู้ชายใจดี คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจนำหมายจับข้อหาฉ้อโกง มาจับกุมเธอที่บ้านพักในจังหวัดชัยนาท ก่อนนำเข้าเรือนจำ โดยกล่าวหาว่าเธอไปโกงเงินผู้เสียหายมา 3 คน เป็นเงิน 7 ล้านบาท

ต่อมาอัยการได้มีคำสั่งไม่ส่งฟ้องคดี จึงได้ปล่อยตัวออกมาเมื่อวานนี้ หลังถูกปล่อยออกมาจากเรือนจำ ได้มีตำรวจมารับ เพื่อจะพาไปส่งที่จังหวัดชัยนาท แต่ไม่รู้ว่าไปแล้วจะเจอใครหรือเปล่า เพราะไม่มีเงินติดตัวสักบาท ทางตำรวจจึงช่วยติดต่อลูกสาวให้ โดยค้นหาชื่อลูกสาวใน Facebook จนกระทั่งตำรวจหาตัวลูกสาวจนเจอ และได้นัดหมายกับลูกสาวว่าจะขับรถไปส่งที่ตลาดไท และได้มาเจอลูกสาวในที่สุด

ด้าน นางสาวศุภากร ลูกสาว กล่าวว่า เมื่อวานเธอทำงานอยู่ มีตำรวจ สภ.เสนา ได้ทัก Facebook มาหาบอกว่าให้มารับแม่ บอกว่าแม่ถูกทำร้ายร่างกายจนตาบอด และเพิ่งออกจากเรือนจำมา ในข้อหา “ฉ้อโกง” ด้วยความตกใจจึงรีบเดินทางไปรับแม่ทันที เมื่อเจอแม่ เธอยอมรับว่าสภาพจิตใจค่อนข้างที่จะย่ำแย่ และช็อกเป็นอย่างมาก เพราะเธอเจอแม่ครั้งล่าสุดในช่วงก่อนปี 2560 แม่ยังสุขภาพร่างกายดี จากนั้นก็เลยไม่ได้ติดต่อแม่อีกเลย จนกระทั่งมาทราบข่าวจากตำรวจ

พอเจอแม่ เธอได้สอบถามแม่ว่า ทำไมแม่เป็นแบบนี้ พร้อมได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูกนางหนูเล็ก (เป็นคนที่แม่รักที่สุด) ทำร้ายร่างกายคนตาบอด ใบหูผิดรูป และมีร่องรอยการถูกทำร้าย บริเวณด้านหลัง ยอมรับว่าโกรธ อยากจะถามว่ามันทำได้ยังไง ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่า “มึงอยู่ในใจกูพูดเลย ยังไงมึงต้องเจ็บมากกว่าแม่กูจำคำกูไว้” และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

ทั้งนี้ นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหา “ทารุณกรรม” และจะตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่าที่ศาลปล่อยตัวออกจากเรือนจำมาเพราะสาเหตุใด พร้อมทั้งจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยากับผู้เสียหายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น