ผลสำรวจพบ ชาวโปแลนด์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องการให้ทางรัฐ ลดการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครนลง เพราะชาวยูเครนนั้น ดูเหมือนจะไม่รู้สึกซาบซึ้งใดๆ ในการช่วยเหลือ รวมถึงระยะหลัง ยังมีคดีอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย
หนังสือพิมพ์เชตซ์โปโพลิตา หนังสือพิมพ์รายวันด้านเศรษฐกิจและกฎหมายของโปแลนด์ ได้รายงานผลสำรวจที่อ้างถึงการค้นพบของการศึกษาเรื่อง การรับรู้ทางสังคมของผู้ลี้ภัยจากยูเครน ผู้อพยพ และการดำเนินการโดยรัฐโปแลนด์และยูเครน ซึ่งดำเนินการโดยดร.โรเบิร์ต สตานิสซิวสกี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยวอร์ซอของโปแลนด์
ทั้งนี้ ผลสำรวจได้พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 95 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า รัฐบาลควรลดความช่วยเหลือของต่อผู้ลี้ภัยชาวยูเครน และ 61 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกเขาต้องการให้ชาวยูเครนกลับประเทศของตน เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ระบุว่า พวกเขาไม่มีปัญหากับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่ตั้งถิ่นฐานในโปแลนด์อย่างถาวร อย่างไรก็ดี ในส่วนการศึกษาฟรีสำหรับเด็กชาวยูเครนนั้น ยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่แง่มุม ที่ชาวโปแลนด์ยังมองในแง่บวกเป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยืนยันว่า ผู้ลี้ภัยรุ่นเยาว์ควรได้รับการศึกษา แต่ต้องเป็นการสอนในหลักสูตรภาษาโปแลนด์ ไม่ใช่หลักสูตรที่ปรับให้เหมาะกับชาวยูเครนโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงสาเหตุของทัศนคติเชิงลบ ที่มีต่อผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ผู้ตอบแบบสอบถามก็กล่าวถึงสิทธิที่ชาวยูเครนควรจะเป็น และการขาดความรู้สึกขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความคิดในแบบตะวันออก และวัฒนธรรมโซเวียต การแสดงออกนั้น เป็นการกระทำที่ปราศจากซึ่งความกังวลถึงประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ชาวโปแลนด์บ่นว่า ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนดูเหมือนจะเชื่อว่า พวกเขาสมควรได้รับทุกสิ่ง และทุกสิ่งต้องกำหนดให้ไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ก็ยังเรียกร้องถึงการมีสิทธิเช่นเดียวกับชาวโปแลนด์ด้วย
สำหรับการศึกษาเดียวกันนี้ได้แสดงให้เห็นว่า จำนวนชาวโปแลนด์ที่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนนั้น ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว จำนวนชาวโปแลนด์ที่สนับสนุนความช่วยเหลือยูเครน มีมากถึง 62 เปอร์เซ็นต์ แต่ในปีปัจจุบัน ได้ลดลงเหลือ 31 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 72 เปอร์เซ็นต์ได้บอกกับผู้สำรวจความคิดเห็นว่า โปแลนด์ควรให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติของตัวเองเป็นอันดับแรก แม้ว่าเพื่อนบ้านจะต้องเผชิญกับความยากลำบากก็ตาม ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีนี้ หนังสือพิมพ์เชตซ์โปโพลิตา ก็ได้รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของตำรวจ ก็พบว่า การไหลเข้าของผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปยูโรสแตท เมื่อเดือนมีนาคม 2024 โปแลนด์ให้การต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนมากถึง 960,000 คน ภายใต้ร่างกฎหมายคุ้มครองชั่วคราว ที่ผ่านในเดือนเมษายน 2022 โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้ จะได้รับที่อยู่อาศัย อาหาร การรักษาพยาบาล การเข้าถึงการศึกษา และความช่วยเหลือทางสังคมอย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับสิทธิประโยชน์ปกติต่อเด็ก 1 คน รวมเป็นเงิน 200 ดอลล่าร์สหรัฐ (หรือประมาณ 7,300 บาท) รวมถึงทางการโปแลนด์ ยังจ่ายเงินให้พ่อแม่ชาวยูเครนเมื่อต้องคลอดบุตรอีก 250 ดอลล่าร์สหรัฐ (หรือประมาณ 9,200 บาท) ด้วย
#บก.ข่าวทีวี
